Somboon’s basic translation

Just another WordPress.com weblog

Semester 2009

รายชื่อนักศึกษาที่ลงทะเบียน    ปีการศึกษา 2/2552

ปริญญาตรี 4 ปี ปกติ   มทร. กรุงเทพ ศิลปศาสตร์  สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล

รายวิชา 01324205 การแปลเบื้องต้น (Basic Translation)

Thu 13:00-16:00 ห้อง 202

ที่  ชื่อ-สกุล  Homework 1

งานแปล 1

 

งานแปล 2

1 นางสาวขจรพรรณ แก้ววังน้ำ   A True Story About a Girl  อำนาจกับปัญญา
2 นางสาวจีรนุช คมขำ   The Travelling Musicians

หัวดำใจดำ 

3 นางสาวจุฑารัตน์ มารีย์   The Turtle and His Bride สิงโตติดหล่ม 
4 นางสาวชุดาพร สมนาค   The Twelve Brothers  สามเกลอ
5 นายดนภัทร ศรีไสว   The Twelve Huntsmen  เศรษฐีขี้เหนียว
6 นางสาวอัสมา เต็มใจ   The Twelve Months  เศรษฐีขี้โกง
7 นายไทอิกิ โมมิกิ   The Unfruitful Tree วิธีการหาคู่แท้ 
8 นางสาวจุฑามาศ วงศ์สุวรรณธร   The Warlike Seven  ลูกช้างกับช่างไม้
9 นางสาวศิรินันท์ แซ่เบ๊   The Water of Life  ลูกของแม่ยังไม่โต
10 นางสาวพัชรินทร์ พันธภาค   The White Duck  ลิงกับนายพราน
11 นางสาวสุพรรษา ไววีระยุทธ   The White Snake เรื่องความอดทน 
12 นายไพสิฐ สุขทิพยาโรจน์   The Wicked Wolverine รังนก 
13 นางสาวประภาพร เกษกุล   The Willow ยาย ตา กับเต่า 
14 นางสาววิภารัตน์ เหล็งสา   The Wolf and The Ox  ยันต์สามดอก
15 นางสาวรัชดา เสนาวิน   The Wolf and the Seven Little Kids  แม่ไก่ 2 ตัว
16 นายธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่  The Wonder Tree พิกุลทอง 
17 นางสาวน้ำฝน นันทะวงศ์  The Wonderful Hair   พญาหงส์ติดบ่วง
18 นางสาวชนนิกานต์ ชื่นโกสุม  The Wonderful Turtle   ผู้หญิงตัวอย่าง
19 นายภานุรักษ์ สีสวย  The Wooden Shoes of Little Wolff   ปัญญาจากหมาขี้เรื้อน
20 นายปิยะพงศ์ พงศ์การุณ  To Your Good Health   ปลาช่อนตัวใหญ่
21 นางสาวพรอุมา ผลแจ้ง   Toads and Diamonds บุญมาวาสนาช่วย 
22 นางสาวราตรี อะฮีร์   Tritill, Litill, And The Birds  นิทานใบไม้
23 นางสาวมัตติกา ฉายวิชิต   Two in a Sack นายสุกกับนายดิบ 
24 นางสาวธมนต์ลักษณ์ เลื่องเชื้อง  Which was the Foolishest  ทำไมความฝันไม่เป็นความจริง 
25 นางสาวธัญญานิตย์ วรสาร  Who Killed the Otter   ถ้วยเก่ากับคนแก่
26 นางสาวทิพวรรณ สิทธิ  Why the Diver Duck Has So Few Tail Feathers  เด็กหนุ่มกับชายชรา 
27 นางสาววีราภรณ์ นุ่มมณี  Why the Evergreen Trees Keep their Leaves in Winter   ซื่อจนเซ่อ
28 นางสาวสิริอร เฉยชิต   Why the Evergreen Trees Never Lose Their Leaves  งูนาคราชหรือมณีสัจจา
29 นางสาวพนมพร คะเนนิล   Why the Fish Laughed  คนแจวเรือจ้าง
30 นางสาวปริศนา ไร่พิมาย  Why the Sea is Salt   กำพร้าผีน้อย
31 นางสาวหัทยา ใจชุ่ม   The Three Dogs  กากับหมาจิ้งจอก
32 นายภูรินท์ ฑีฆะโภวรรณ   The Wonderful Birch  กบกินเดือน
33 นายณัฐพร ขาวผ่อง  The Twin Brothers   นิทานการเงิน

34. นางสาวปาริชาติ  โฆษิตเศรษฐกุล   TWO BROTHERS          เห็บหกตัวกับตัวหมัด

Fri 13:00-16:00 ห้อง 246B

ที่  ชื่อ-สกุล  Homework 1 

งานแปล 1

  

งานแปล 2

1 นางสาววรรณภา แซ่เฮ้ง  How a Fish Swam in the Air and a Hare in the Water   กลิ่นอาหาร  
2 นางสาวชมพูนุช แสงทองดี  How an Old Man Lost His Wen  ก้าบ ๆ ๆ   
3 นางสาวทรงพร เงินสูงเนิน  How Brave Walter Hunted Wolves  กำเนิดกบ   
4 นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล   How Brother Rabbit Fooled the Whale and the Elephant กำเนิดค้างคาว   
5 นางสาวอัมพิกา จันตา  How Geirald the Coward Was Punished   กำเนิดต้นข้าว  
6 นางสาวนุชสรา ผิวอ่อน  How Ian Direach Got the Blue Falcon  กำเนิดตุ๊กแก   
7 นางสาวเสาวลักษณ์ พงษ์ศักดิ์ขจร   How Indian Corn Came Into the World กำเนิดพระอาทิตย์   
8 นายสรสิช ปาลคำ   How Moses Was Saved กำเนิดเหยี่ยว   
9 นายอนิรุธต์ มีชัย  How Six Men Travelled Through the Wide World  เขานมนาง จังหวัดสุพรรณบุรี   
10 นางสาวจุฑารัตน์ ทิมาบุตร  How the Beggar Boy Turned into Count Piro  คนใต้ทะเล   
11 นางสาวยุวดี บุญมาเลิศ  How the Dragon was Tricked  โคลงเคลงค้างคาวน้อย   
12 นางสาวรัตนาพร แสนบริสุทธิ์  How the Hermit Helped to Win the King  เงินค่าจ้าง   
13 นางสาวเสาวลักษณ์ แซ่คู  How the Little Brother Set Free His Big Brothers  เจ้าชายแตงโม   
14 นางสาวจารุวรรณ ภูกองทุ่ง   How the Rabbit Lost His Tail  เจ้าเณรก้อย  
15 นางสาววิรุทัย อิทธิฤทธิ์ไพศาล  How the Stalos Were Tricked  เจ้าแม่ระฆัง   
16 นายปภังกร ศรีนาคเรือง  How The Wicked Tanuki Was Punished  เจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว จังหวัดปัตตานี   
17 นางสาวอารียา ศิริศรัณยู   How To Find Out A True Friend เจ้าสาวชาวป่า   
18 นายสุรศักดิ์ ตุลาทิพากุล  The Three Brothers  เด็กเลี้ยงแกะกับเด็กน้อย   
19 นางสาวอนุสรา อินทสระ  The Three Crowns  ตำนานหอยสังข์   
20 นายเมธานันท์ หนักแน่น  The Three Dogs  ตุ๊กแกเบิ้ม   
21 นางสาวขวัญเกล้า มะลุลี  The Three Dwarfs  ทำไมถึงจุดประทัดวันตรุษจีน   
22 นายชัชชาลี มิลินทสูต  The Three Enchanted Princes  นกกระเรียนตอบแทนบุญคุณ   
23 นางสาวปัทมา คำโส  The Three Heads of the Well   นกฮูกกับช้าง  
24 นางสาวอิศราภรณ์ มงคล   The Three Kings of Cologne นึกว่าง่าย   
25 นางสาวณฐพร อิ่มมาก  The Three Languages  พระราชาเสวยแกลบ   
26 นางสาวหัทยา ญาณสะอาด   The Three Little Pigs ภูเขาโกศ   
27 นางสาววราพร พวงเรือนแก้ว  The Three Musicians  ภูเขาแสงอาทิตย์   
28 นางสาวเพชรรัตน์ หมื่นแก้ว   The Three Princes and Their Beasts  เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์  
29 นางสาวธีรตา แข็งกิจ   The Three Princesses of Whiteland ไม่มีเศษข้าวให้หมู   
30 นางสาวเกษร รูปพรม  The Three Robes  รุ้งฟ้า   
31 นางสาวพลอยสีรุ้ง ตันติแพทยางกูร   The Three Sillies ลานนางคอย จังหวัด แพร่   
32 นางสาวเกวลิน วงปะละ  The Three Sisters  ลิงกับแมลงปอ   
33  นายอรรถสิทธิ์ พลเสน  The Story of Christmas  เศรษฐีฟางเส้นเดียว  

34  นางสาวกานต์ธีรา  ผลาผล     The Cat and the Mice          พญาหงส์ติดบ่วง

46 Comments »

  1. To My students

    Since I am going to Hongkong during 19 – 22 November 2009, all of you have to translate the article on the page “Semester 2009″, click at “Homework 1″ in the part of your name list and submit your translation by clicking “Submit Comment” on the website.

    Aj Somboon

    Comment by somboon | November 17, 2009 | Reply

  2. ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านและเห็นชายชราไว้หนวดสีขาว 3 คนนั่งอยู่ในสวนหน้าบ้าน หล่อนไม่รู้จักพวกเขา หล่อนพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักคุณ แต่คุณคงหิว เขามาในบ้านและหาอะไรกิน” “คุณผู้ชายของบ้านไม่อยู่หรอ?” พวกเขาถาม “ไม่” หล่อนพูด “เขาอยู่ข้างนอก” “พวกเราก็ไม่เข้าไปไม่ได้” พวกเขาตอบ
    ในตอนเย็นเมื่อสามีของหล่อนกลับบ้าน หล่อนเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น “ไปบอกพวกเขาว่า ฉันอยู่และเชิญพวกเขาเข้ามาในบ้าน!” ผู้หญิงเดินออกไปและเชิญชายเข้ามาในบ้าน “พวกเราไม่เข้าไปในบ้านด้วยหรอก” พวกเขาตอบ “ทำไมล่ะ” หล่อนอยากรู้ ชายชราคนหนึ่งอธิบาย “เขาชื่อสมบัติ” เขาพูดและชี้เพื่อนคนหนึ่ง และชี้อีกคนหนึ่ง “เขาความสำเร็จและฉันความรัก” “ตอนนี้เข้าไปปรึกษาหารือกับสามีของคุณในบ้าน”
    ผู้หญิงเข้าไปในบ้านละเล่าให้สามีฟัง สามีของหล่อนดีใจมาก “ดีจัง” เขาพูด “ไปเชิญสมบัติเข้ามาและเติมเต็มบ้านของเราด้วยสมบัติ” ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย “ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จ?”
    ลูกละใภ้ของพวกเขาได้แอบฟังที่มุมหนึ่งของบ้าน หล่อนเดินเข้าไปแล้วเสนอว่า “เชิญความรักไม่ดีกว่าหรอ? บ้านของเราควรจะเต็มไปด้วยความรัก” “ทำตามที่ลูกสะใภ้แนะนำ” สามีพูดกับภรรยา “รีบไปเชิญความรักมาเป็นแขกของเรา” ผู้หญิงออกไปและถามชายชรา 3 คนว่า “ใครคือความรัก? เชิญเข้ามาเป็นแขกของเรา”
    ความรักลุกขึ้นและเดินเข้าไปในบ้าน อีก 2 คนก็ลุกขึ้นและเดินตามเขาเข้าไป ผู้หญิงถามสมบัติและความสำเร็จ “ฉันเชิญแค่ความรัก ทำไมคุณถึงเข้ามา” ชายชราตอบพร้อมกันว่า “ถ้าคุณเชิญสมบัติหรือความสำเร็จ อีก 2 คนก็จะอยู่ข้างนอก แต่ถ้าคุณเชิญความรัก ที่ไหนก็ตามที่เขาไป เราก็จะไปด้วย ที่ไหนมีความรักก็จะมีสมบัติและความสำเร็จด้วย”

    Miss Rattanaporn Saenborisut
    AE.2-2 ID: 51501030082-7

    Comment by นางสาวรัตนาพร แสนบริสุทธิ์ | November 25, 2009 | Reply

  3. หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านของเธอ และมองดูชายชราที่มีหนวดเคราขาวสามคน ซึ่งกำลังนั่งอยู่สนามหน้าบ้าน หล่อนจำพวกเขาไม่ได้ หล่อนพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักคุณนะ แต่ว่าคุณต้องหิวแน่ ได้โปรดเข้ามาข้างในและกินอะไรก่อนเถอะ” “มีผู้ชายอยู่ในบ้านรึเปล่า” พวกเขาถาม “ไม่มี” หล่อนตอบ “เขาออกไปข้างนอก” “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่สามารถเข้าไปได้” พวกเขาตอบกลับ
    ในตอนเย็น เมื่อสามีหล่อนกลับมาบ้าน หล่อนก็เล่าให้เขาฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น “ไปบอกพวกเขาว่าฉันไม่ว่าอะไร และเชิญพวกเขาเข้ามาได้” หญิงสาวออกไปข้างนอกและเชิญชายชราเหล่านั้นเข้ามา “พวกเราจะไม่เข้าไปในบ้านพร้อกัน” พวกเขาตอบ “ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ” หล่อนอยากรู้ ชายชราคนหนึ่งก็อธิบายว่า “เขาชื่อ ความมั่งคั่ง” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนคนนึงของเขา และพูดพร้อมกับชี้ไปยังอีกคน “เขาคือความสำเร็จ และฉันคือความรัก” จากนั้นเขาก็พูดเสริมว่า “ตอนนี้เข้าไปข้างในและอธิบายให้กับสามีของคุณฟังว่าสิ่งไหนที่คุณต้องการให้เข้าไปในบ้าน”
    หยิงสาวเข้าไปในบ้านและบอกสามีหล่อนในสิ่งที่เขาพูด สามีของหล่อนรู้สึกยินดีเป็นล้นพ้น “ช่างดีเหลือเกิน!!” เขาพูด ต่อจากนี้ ขอให้พวกเราเชื้อเชิญความมั่งคั่ง ให้เขาเข้ามาและเติมเต็มบ้านของเราด้วยความมั่งคั่งร่ำรวย!” ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย “ที่รัก..ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จล่ะ?” ลูกสะใภ้ของพวกเขาซึ่งกำลังนั่งฟังอยู่อีกมุมหนึ่งของบ้าน หล่อนลุกพรวดออกมาพร้อมกับให้คำแนะนำว่า “เราเชิญความรักเข้ามาน่าจะดีกว่าไหม บ้านของเราจะได้เต็มไปด้วยความรัก!” “เราสนใจคำแนะนำของลูกสะใภ้เรานะ” เขาพูดกับภรรยาของเขา “ออกไปข้างนอกแล้วเชิญให้ความรักมาเป็นแขกรับเชิญของเรา” หญิงสาวออกไปข้างนอกและถามชายทั้งสามว่า “คนไหนคือความรัก เชิญเข้ามาข้างในและเป็นแขกของพวกเรา”
    ความรักลุกขึ้นและเพ่งตามอง เดินตรงไปที่บ้าน อีกสองคน ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไป น่าแปลกใจ หญิงสาวได้ถามความมั่งคั่ง และความสำเร็จ ” ฉันเชิญแต่ความรัก แล้วทำไมคุณเข้ามาล่ะ” สองชายชราตอบพร้อมกัน “ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่งหรือความสำเร็จ อีกสองคนอาจจะต้องอยู่นอกบ้าน แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณเลือกความรัก ที่ไหนที่เขาไป พวกเราก็จะไปกับเขา ที่ใดมีความรัก ที่นั้นก็จะมีทั้งความมั่งมีและความสำเร็จ

    Comment by น.ส.ปริศนา ไร่พิมาย | November 26, 2009 | Reply

  4. นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล
    ปี2 ห้อง1
    การแปลเป็นไทย
    มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอได้ออกจากบ้านของเธอ และ เธอได้เห็นชายชรา 3 คน มีลักษณะเครายาวสีขาว ได้นั่งอยู่บริเวณสวนหน้าบ้านของเธอ เธอจำพวกเขาไม่ได้ เธอจึงพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันไม่รู้จักพวกคุณแต่คุณน่าจะหิว โปรดเข้ามาข้างในและฉันมีอะไรให้คุณรับประทาน” “มีผู้ชายอยู่ในบ้านไหม”พวกเขาถาม “ไม่มีค่ะ”เธอบอก”เขาอยู่ข้างนอก” “เมื่อนั้นพวกเราไม่สามารถเข้าไปได้”พวกเขาตอบ
    ในตอนเย็น เมื่อสามีของเธอกลับมาถึงบ้าน เธอบอกสามีของเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันออกไปบอกพวกเขาว่าฉันอยู่ในบ้าน และอยากเชิญพวกเขาเข้ามาข้างใน” ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ออกไปแล้วและได้เชิญพวกเขาให้เข้ามาข้างในแล้ว “พวกเขาไม่สามารถเข้าด้วยกันได้”พวกเขาตอบ “ทำไมล่ะ”เธอต้องการรู้ ชายชราผู้หนึ่งได้อธิบายว่า”ชื่อของชายผู้นี้ชื่อ ความมั่งคั่ง” ชายชราผู้นั้นพูดพร้อมชี้ไปที่เพื่อนและเพื่อนอีกคนหนึ่ง “เขาคนนี้ชื่อ ความสำเร็จ และตัวผมชื่อ ความรัก” จากนั้นพวกเขากล่าวเพิ่ม” ตอนนี้คุณควรเข้าไปข้างในและคุณควรไปหารือกับสามีของคุณว่าคุณต้องการให้หนึ่งในสามคน คุณต้องการให้ใครเข้าไปในบ้าน”
    ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปข้างในบ้าน เธอบอกสามีของเธอว่าพวกเขาพูดอะไร สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก “วิเศษอะไรอย่างงี้”เขาพูด “ตั้งแต่ได้รู้เรื่องราว พวกเราว่าเชิญความมั่งคั่งเข้ามา พวกเราจะได้มีทรัพย์สมบัติเต็มบ้าน” ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย”ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จล่ะ”
    ลูกสะใภ้ได้ฟังจากมุมภายในบ้าน เธอออกมาเสนอคำแนะนำว่า”จะดีกว่าไหม ถ้าเชิญความรัก บ้านของเราจะได้เต็มไปด้วยความรัก” “คุณได้ยินลูกสะใภ้แนะนำไหม”สามีของเธอพูด “เธอออกไปเชิญความรักเข้ามาเป็นแขก” ผู้หญิงได้ออกไปและถามชายชรา 3 คนว่า”คนไหนชื่อความรัก โปรดเข้าเป็นแขกของเราเถิด”
    ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังที่บ้าน อีก 2 ท่านได้ลุก และเดินตามความรักมา เธอประหลาดใจมาก เธอถามความมั่งคั่งและความสำเร้จว่า”ฉันเชิญเพียงความรัก แล้วทำไมคุณเดินตามมา” ชายชรากล่าวพร้อมกันว่า”ถ้าคุณเชิญระหว่างความมั่งคั่งหรือความสำเร็จนั่น หนึ่งในสองคนนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่เมื่อคุณเชิญความรัก ที่ใดที่เขาไปพวกเราก็จะไปกับเขาด้วย ทุกๆที่ ที่ยังมีความรัก ก็ยังคงมีความมั่งคั่ง และความสำเร็จอยู่เสมอ”

    Comment by มุกดา ลักษณะวรรณกุล | November 27, 2009 | Reply

  5. 2.นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล
    ปี2 ห้อง1
    การแปลเป็นไทย
    มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอได้ออกจากบ้านของเธอ และ เธอได้เห็นชายชรา 3 คน มีลักษณะเครายาวสีขาว ได้นั่งอยู่บริเวณสวนหน้าบ้านของเธอ เธอจำพวกเขาไม่ได้ เธอจึงพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันไม่รู้จักพวกคุณแต่คุณน่าจะหิว โปรดเข้ามาข้างในและฉันมีอะไรให้คุณรับประทาน” “มีผู้ชายอยู่ในบ้านไหม”พวกเขาถาม “ไม่มีค่ะ”เธอบอก”เขาอยู่ข้างนอก” “เมื่อนั้นพวกเราไม่สามารถเข้าไปได้”พวกเขาตอบ
    ในตอนเย็น เมื่อสามีของเธอกลับมาถึงบ้าน เธอบอกสามีของเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันออกไปบอกพวกเขาว่าฉันอยู่ในบ้าน และอยากเชิญพวกเขาเข้ามาข้างใน” ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ออกไปแล้วและได้เชิญพวกเขาให้เข้ามาข้างในแล้ว “พวกเขาไม่สามารถเข้าด้วยกันได้”พวกเขาตอบ “ทำไมล่ะ”เธอต้องการรู้ ชายชราผู้หนึ่งได้อธิบายว่า”ชื่อของชายผู้นี้ชื่อ ความมั่งคั่ง” ชายชราผู้นั้นพูดพร้อมชี้ไปที่เพื่อนและเพื่อนอีกคนหนึ่ง “เขาคนนี้ชื่อ ความสำเร็จ และตัวผมชื่อ ความรัก” จากนั้นพวกเขากล่าวเพิ่ม” ตอนนี้คุณควรเข้าไปข้างในและคุณควรไปหารือกับสามีของคุณว่าคุณต้องการให้หนึ่งในสามคน คุณต้องการให้ใครเข้าไปในบ้าน”
    ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปข้างในบ้าน เธอบอกสามีของเธอว่าพวกเขาพูดอะไร สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก “วิเศษอะไรอย่างงี้”เขาพูด “ตั้งแต่ได้รู้เรื่องราว พวกเราว่าเชิญความมั่งคั่งเข้ามา พวกเราจะได้มีทรัพย์สมบัติเต็มบ้าน” ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย”ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จล่ะ”
    ลูกสะใภ้ได้ฟังจากมุมภายในบ้าน เธอออกมาเสนอคำแนะนำว่า”จะดีกว่าไหม ถ้าเชิญความรัก บ้านของเราจะได้เต็มไปด้วยความรัก” “คุณได้ยินลูกสะใภ้แนะนำไหม”สามีของเธอพูด “เธอออกไปเชิญความรักเข้ามาเป็นแขก” ผู้หญิงได้ออกไปและถามชายชรา 3 คนว่า”คนไหนชื่อความรัก โปรดเข้าเป็นแขกของเราเถิด”
    ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังที่บ้าน อีก 2 ท่านได้ลุก และเดินตามความรักมา เธอประหลาดใจมาก เธอถามความมั่งคั่งและความสำเร้จว่า”ฉันเชิญเพียงความรัก แล้วทำไมคุณเดินตามมา” ชายชรากล่าวพร้อมกันว่า”ถ้าคุณเชิญระหว่างความมั่งคั่งหรือความสำเร็จนั่น หนึ่งในสองคนนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่เมื่อคุณเชิญความรัก ที่ใดที่เขาไปพวกเราก็จะไปกับเขาด้วย ทุกๆที่ ที่ยังมีความรัก ก็ยังคงมีความมั่งคั่ง และความสำเร็จอยู่เสมอ”

    Comment by Mookda Luksanawannakul | November 27, 2009 | Reply

  6. อาจารย์ค่ะ

    นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล

    คณะ ศิลปศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ปี2

    อยากแแจ้งปัญหาเรื่องห้องค่ะ

    ในเว็บอาจารย์บอกว่าอยู่ ห้อง2

    แต่ดิฉันได้ย้ายห้องมา ห้อง1 แล้วค่ะ

    โปรดกรุณาแก้ห้องให้ดิฉัน

    เพื่อสะดวกต่อการสอบ และการบ้านค่ะ

    ตอนนี้ ดิฉันยังไม่ได้รับการบ้านที่อาจารย์สั่ง ปี2 ห้อง1

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ

    นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล
    คณะศิลปศาสตร์ สาขา ภาษอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ปี2 ห้อง2

    Comment by Mookda Luksanawannakul | December 18, 2009 | Reply

  7. อาจารย์ค่ะ

    นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล

    คณะ ศิลปศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ปี2

    อยากแแจ้งปัญหาเรื่องห้องค่ะ

    ในเว็บอาจารย์บอกว่าอยู่ ห้อง2

    แต่ดิฉันได้ย้ายห้องมา ห้อง1 แล้วค่ะ

    โปรดกรุณาแก้ห้องให้ดิฉัน

    เพื่อสะดวกต่อการสอบ และการบ้านค่ะ

    ตอนนี้ ดิฉันยังไม่ได้รับการบ้านที่อาจารย์สั่ง ปี2 ห้อง1

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ

    ด้วยความเคารพอย่างสูง

    นางสาวมุกดา ลักษณะวรรณกุล
    คณะศิลปศาสตร์ สาขา ภาษอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ปี2 ห้อง1

    Comment by Mookda Luksanawannakul | December 18, 2009 | Reply

  8. นายพรานทั้ง 12 คน
    ณ ที่แห่งนั้นมีเจ้าชายองค์หนึ่งผู้ที่มีเจ้าสาวเป็นที่รักของพระองค์มาก และเมื่อเจ้าชายนั่งข้างเจ้าสาวก็จะมีความสุขมาก ต่อมาได้มีข่าวเข้ามาว่าพระราชานอนซมใกล้จะสิ้นพระชนม์ พระองค์จึงตัดสิ้นใจไปเยี่ยมซักครั้งก่อนที่พระราชาจะสิ้นลม และได้กล่าวกับเจ้าสาวว่า
    “เราต้องไปและจากเจ้าไปในตอนนี้ เราขอมอบแหวนวงนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา เมื่อเราเป็นพระราชา เราจะกลับมาแล้วนำเจ้าไปอยู่ด้วย”
    ต่อจากนั้นเจ้าชายได้ขี่ม้าจากไปและเมื่อถึงที่ พระราชาก้ได้ป่วยอย่างหนักและใกล้สิ้นลม พระราชาได้ตรัสกับเจ้าชายว่า
    “ลูกชายของข้า ข้าหวังว่าจะพบเจ้าซักครั้งก่อนที่จะจะสิ้นลม สัญญากับข้าซิว่าจะแต่งงานตามที่ข้าหวังไว้และได้พูดชื่อของเจ้าหญิงของพระราชาอีกเมืองที่ได้ตกลงกันไว้ว่ามาเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชาย” เจ้าชายได้ตกที่นั่งลำบากพระองค์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี และเจ้าชายได้กล่าวกับพระราชาว่า “เสด็จพ่อลูกจะทำตามที่พ่อสั่งไว้” จากนั้นพระราชาได้หลับตาและสิ้นลมอย่างสงบ

    เมื่อเจ้าชายถูกสถาปนาเป็นพระราชาเพระฉะนั้นเวลาของความโศรกเศร้าได้จบลงแล้ว พระราชาได้ถูกบีบบังคับในการรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับเสด็จพ่อ และเนื่องด้วยเจ้าหญิงได้ถูกถามเกี่ยวกับการแต่งงานที่ได้ให้สัญญากับพ่อของเธอไว้ คู่หมั่นคนแรกของพระราชาได้ยินเรื่องนี้และโกรธมากกับความซื้อสัตย์ที่มีให้ต่อเธอจนเธอเกือบตาย จากนั้นพ่อของเธอพูดกับเธอว่า “เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าจะเศร้าไปทำไม?” “เจ้าจะมีสิ่งที่เจ้าต้องมี” เธอคิดซักพักหนึ่งแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ลูกขอหญิงสาว 11 คนที่มีรูปร่าง ขนาดและใบหน้าที่เหมือนลูก” พ่อพูดว่า “ถ้ามันเป็นไปได้ละก็ ความปรารถนาของลูกก็จะสำเร็จผล” และพ่อของเธอได้เริ่มต้นค้นหาในอณาจักรทั้งหมดของเขาจนกระทั่ง หญิงสาว 11 ถูกพบซึ่งเป็นผู้ที่มีลักษณะต่างๆเหมือนกับลูกสาวของเขา

    เมื่อหญิงสาวทั้งหมดมาถึงลูกสาวของพระราชา เธอมีชุดนายพรานที่เหมือนกันอยู่ 12 ตัว หญิงสาวโสดทั้ง 11 คน ต้องใส่ชุดนายพราน และเธอก็ต้องใส่เป็นชุดที่ 12 หลังจากนั้น เธอได้ทำการจากลากับพ่อ และขี่ม้าไปพร้อมกับพวกหญิงสาวทั้ง 11 คน เธอได้ควบไปยังหน้าลานของอดีตคู่มั่นเธอผู้ที่เธอรักมาก จากนั้นเธอถามว่าเขาต้องการนายพรานบ้างไหม และอยากให้ทุกคนไปอยู่ในส่วนบริการของท่านไหม พระราชามองไปยังเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่ทั้งหมดล้วนแต่ดูเป็นมิตรที่ดี พระราชากล่าวว่า “ได้” โดยเขาเต็มใจที่จะรับไว้และต่อแต่นี้พวกเขาคือนายพรานทั้ง 12 คนของพระราชา

    อย่างไรก็ดีพระราชามี ราชสีห์ซึ่งเป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่รู้ความลับทุกอย่างที่ถูกปิดบังไว้ มันมาหาพระราชาในคืนหนึ่งและพูดกับพระราชาว่า “ท่านคิดว่าท่านมี 12 นายพรานจริงหรือ” “ใช่” พระราชาตอบ “พวกนั้นทั้งหมดเป็นนายพราน” ราชสีหฺกล่าวต่อ “ท่านถูกหลอกแล้ว พวกนั้นคือหญิงสาวทั้ง 12 คน” พระราชาจึงพูดว่า
    “มันไม่เป็นความจริง! เจ้าจะพิสูจน์ให้เรารู้ได้ยังไง” “โอ้ เพียงแค่โปรยเมล็ดถั่วลงในโถงพระโรง” ราชสีห์ตอบ “แล้วท่านจะเห็น ผู้ชายมีการเดินที่มั่นคง เมื่อพวกเขาเดินผ่านพวกถั่วก็จะไม่มีอาการสั้นไหวได้ๆ แต่ถ้าผู้หญิงจะข้ามและลากเท้าไปและถั่วจะกลิ้ง” พระราชารู้สึกยินดีอย่างมากกับที่ปรึกษา แล้วเริ่มให้โปรยเมล็ดถั่ว

    อย่างไรก็ตามที่นั้นก็มีทาสที่ชอบนายพรานและเมื่อเขาได้ยินเรื่องที่จะให้พวกนายพรานเข้าการทดสอบ เขาได้เดินทางไปหาและเล่าทุกอย่างให้พวกนายพรานฟัง ราชสีห์ต้องการที่จะให้พระราชาราชเชื่อว่าพวกท่านเป็นผู้หญิง จากนั้นเธอก็ได้ขอบคุณทาสคนนั้นและพูดกับเหล่าหญิงสาวของเธอ “แสดงความแข็งแกร่งออกมา เดินอย่างมั่นคงไปบนเมล็ดถั่วพวกนั้น” ดั้งนั้นในวันต่อมา เมื่อพระราชาเรียกเหล่านายพรานมาต่อหน้าพระองค์ เหล่านายพรานเข้ามาในโถงพระโรงที่ๆมีถั่วเรียงรายเต็มไปหมด พวกเขาเดินอย่างมั่นคงบนเมล็ดถั่ว มีทั้งความแข็งแกร่ง ก้าวเดินที่แน่นอน โดยไม่มีถั่วเม็ดใดกลิ้งหรือกระเด็นไป จากนั้นพวกเขาก็ไปอีกครั้งนึง และพระราชากล่าวกับราชสีห์ว่า เจ้าโกหกต่อเรา พวกเขาเดินอย่างกับผู้ชาย ราชสีห์กล่าว “พวกเขาได้ถูกแจ้งว่าพวกเขาจะถูกทดสอบและคาดว่าต้องใช้ความแข็งแกร่ง” “เพียงให้เครื่องปั่นด้าย 12 เครื่องถูกนำมาไว้ในโถงพระโรง และพวกเขาจะไปที่มันและรู้สึกถูกใจกับเครื่องปั่นด้าย และนั้นเป็นเป็นสิ่งที่ไม่มีชายคนใดที่อยากทำ”
    พระราชาชอบคำแนะนำนี้และให้มีเครื่องปั่นด้ายตั้งไว้ในโถงพระโรง แต่ทาสผู้ที่ชอบนายพรานเป็นอย่างมาก ได้เดินทางไปหาและเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการ ดั้งนั้นเมื่อพวกเขาอยู่โดยลำพัง เธอได้กล่าวกับบรรดาหญิงสาวทั้ง 11 คน “แสดงการควบคุมจิตใจและไม่มีมองไปที่เครื่องปั่นด้าย”
    ในวันต่อมาเมื่อพระราชาเรียกเหล่านายพรานแสดงตัว พวกเขาเดินตรงไปยั งโถงพระโรงและไม่มองไปที่เครื่องปั่นด้ายแม้แต่ครั้งเดียว จากนั้นพระราชาพูดกับราชสีห์อีกครั้งว่า “เจ้าแหกตาหาข้า พวกนั้นคือผู้ชาย พวกนั้นไม่มองไปที่เครื่องปั่นด้ายเลย” ราชสีห์ตอบ “พวกเขาได้ยับยังตัวเอง” อย่างไรก็ตามพระราชาไม่อยากจะเชื่อราชสีห์อีกต่อไป

    นายพรานทั้ง 12 ตามพระราชาไปล่าสัตว์ทุกๆครั้ง และสายสัมพันธ์พวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ผ่านมาอีกครั้งในการออกล่า และมีข่าวมาถึงว่าเจ้าสาวของพระราชาได้มาถึงแล้ว เมื่อเจ้าสาวตัวจริงได้ยินเข้า มันทำให้หัวใจของทั้งหมดเกือบแตกสลาย และเธอเป็นลมล้มไปกองที่พื้น พระราชาคิดว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเหล่านายพรานของเขาและได้วิ่งเพื่อไปต้องการช่วย พระราชาดึงถุงมือของนายพรานออก หลังจากนั้นเขาเห็นแหวนซึ่งเขาได้เคยให้กับเจ้าสาวคนแรกของเขา และเมื่อพระราชามองไปที่หน้าของเธอ เขาจำเธอได้ จากนั้นหัวใจของเขาได้สัมผัสว่าเขาจูบเธอ และเมื่อเธอลืมตาพระราชากล่าวว่า “ฉันคือเธอ เธอคือฉัน ไม่มีใครในโลกนี้สามารถมาแก้ไขได้. พระราชาได้ส่งสาส์นไปยังเจ้าสาวอีกคน และอ้อนวอนให้เธอกลับไปยังอณาจักรของตน สำหรับเขามีภรรยาแล้ว และสำหรับคนที่แค่ได้พบกับกุญแจเก่าแล้วนั้นก็ไม่ต้องการอันใหม่อีก หลังจากนั้นการแต่งงานก็ถูกเฉลิมฉลองขึ้น และราชสีห์ก็เป็นที่โปรดปรานอีกครั้งนึงเพราะว่าเรื่องทั้งหมดนั้น ราชสีห์ได้พูดความจริง

    Comment by donapat srisawai | December 21, 2009 | Reply

  9. อาจารย์คะ

    นางสาวปาริชาติ โฆษิตเศรษฐกุล

    คณะ ศิลปศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล ปี2

    ยังไม่ได้รับการบ้านเลยค่ะ

    ไม่มีรายชื่อหรือเปล่าคะ

    จึงเรียนมาเพื่อทราบและช่วยตรวจสอบให้ด้วยค่ะ

    ด้วยความเครพเป็นอย่างยิ่ง

    Comment by ปาริชาติ โฆษิตเศรษฐกุล | December 21, 2009 | Reply

  10. ผู้หญิงนางหนึ่งเดินออกมาจากบ้านและเห็นชายชราไว้เคราขาว 3 คนนั่งอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน นางไม่รู้จักพวกเขา ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักคุณ แต่คุณคงหิว เขามาในบ้านและหาอะไรกินเถิด”
    “คุณผู้ชายของบ้านไม่อยู่หรอ?” พวกเขาถาม
    “ไม่” หล่อนพูด “เขาไปข้างนอกน่ะ”
    “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่เข้าไปไม่ได้หรอก” พวกเขาตอบ
    ในตอนเย็นเมื่อสามีของนางกลับมาบ้าน นางได้เล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
    “ไปบอกพวกเขาว่า ฉันมาแล้วและเชิญพวกเขาเข้ามาในบ้านเถอะ!”
    นางจึงเดินออกไปและเชิญชายเข้ามาในบ้าน
    “พวกเราไม่เข้าไปในบ้านพร้อมกันหรอก” พวกเขาตอบ
    “ทำไมล่ะ” หล่อนอยากรู้
    และชายชราคนหนึ่งจึงอธิบาย “เขาชื่อความมั่งคั่ง” เขาพูดพร้อมชี้ไปที่เพื่อนคนหนึ่ง
    และชี้อีกคน “เขาคือความสำเร็จและฉันคือความรัก”
    จากนั้นเขาก็เสริมว่า “ตอนนี้จงเข้าไปปรึกษาหารือกับสามีของเจ้าในบ้านและเลือกเราคนใดคนหนึ่งเข้าบ้านเถิด”
    ผู้หญิงจึงเข้าไปในบ้านและเล่าให้สามีฟัง สามีของนางดีใจมาก “ดีเยี่ยมเลย” เขาพูด “ไปเชิญความมั่งคั่งเข้ามาและเติมเต็มบ้านของเราด้วยความมั่งมีกันเถอะ”
    ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย “ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จล่ะ?”
    ลูกละใภ้ของพวกเขาได้แอบฟังที่มุมหนึ่งของบ้าน หล่อนเดินเข้าไปแล้วเสนอว่า “เชิญความรักไม่ดีกว่าหรอ? บ้านของเราควรจะเต็มไปด้วยความรัก” “ข้าว่าทำตามที่นางบอกเถอะ” สามีพูดกับภรรยา “รีบไปเชิญความรักมาเป็นแขกของเรา” นางจึงออกไปและถามชายชรา 3 คนว่า
    “ใครคือความรัก? เชิญเข้ามาเป็นแขกของเรา”
    ความรักลุกขึ้นและเดินเข้าไปในบ้าน อีก 2 คนก็ลุกขึ้นและเดินตามเขาเข้าไป เธอแปลกใจมากจึงได้ถามถามความมั่งคั่งและความสำเร็จว่า
    “ฉันเชิญแค่ความรัก ทำไมพวกท่านถึงเข้ามา”
    ชายชราทั้งสองตอบพร้อมกันว่า
    “ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่งหรือความสำเร็จมา อีก 2 คนก็จะอยู่คอยข้างนอก แต่ถ้าคุณเชิญความรัก ที่ไหนก็ตามที่เขาไป พวกเราก็จะตามไปด้วย ที่ไหนมีความรักก็จะมีความมั่งคั่งและความสำเร็จ”

    Comment by ปาริชาติ โฆษิตเศรษฐกุล | December 21, 2009 | Reply

  11. Horn was a giant demon with very effective.He can aviation flying, Diving into the ocean in bowels.
    One day the trumpet giant would have the knowledge to make their doughty more. So, Horn Los steal the book of Ruth Brahma then swallowed in to the stomuch and then fled away under the deep seas. The Book Vedism lost causes truble humen world, rain didn’t fall cause it’s death. Vishnu invent the general body as the ocean.
    Then find the devil incarnate a trumpet conch. when the conch was found, Vishnu forced giant to spit out Vedism Book.But Satan didn’t allow spiting trumpet. Vishnu used his hand side of the beat.Los Ruth Horn and hand the other side a dip into mouth of the Horn Los Ruth and drag Book Vedism out. This reason is fluted conch of Vishnu fingers stuck. And at the mouth of a counch shell is a small groove because Vishnu drag out the Book. Believe that the counch shell that is holy. And the counch shell used in various sacred ceremonies . For example sends the marriage blessed water and used at the legendary Trumpet blow counch.

    Anusara Intasara
    English For International Communication..

    2-1
    ((( 10/01/53 )))

    Comment by Anusara Intasara | January 10, 2010 | Reply

  12. Millionaire straw a line
    A young man bereaved parents and very poor. No matter,
    he would much diligent hard work however, he was also indigent man.
    One day, he worshipped the court into goddess “Guan Imran” then fall asleep.
    He dreamed that the goddess “Guan Imran” appear in front of his face and, told him that following his will be fortunate.
    When walked away from the court to the east, where done you fallen and whatever can you catches, hold it, he will be lucky.
    When young man woke up, He felt glad and fell into prostration goddess “Guan Imran”, then gone from court focused on the east.
    When, he was walk-tripping stone fall, the hands touch the ground that has a straw stick his hand.
    By the way, dragonfly was flying catch his hands, He tied body dragonfly stick with a straw, Dragonfly was flying a whirring sound.
    Next, he met a young children standing weep.
    He has sent a straw that tied a dragonfly,The children was gratified that it flew a whirring sound and, hold the straw that bound with a dragonfly.
    Mother’s children happied that a son stopped cry, so she given three oranges for young man.
    He continues to see a young women swoon because of thirst, then he given three oranges for maid of young women.
    The maid of young women felt grateful then she given three coils of silk.
    The young women continue walked shoulder three coil of silk.
    After that, he met a samurai sat side of his horse that was sick.
    The samurai requested for exchange him horse with silks.
    The young man sympathized a horse then he exchanged his silks with a horse and hand a horse to drink some water. Suddenly, horse was healthy.
    He cavorted a horse and gone to one of the largest castles. He requested to camp in the castle.
    The rich castles owners have seen a horse that good healthy then he want to buy it and blow the nose daughters taken money out.
    When the daughters took money out there and memorized a young man who gave three oranges for rescue her.
    That’s cause the castle owners induced the young man participation work together.
    Young men worked zealously then, The Millionaire entailed a daughter to marry with him.
    He had worked become a millionaire man, People was called the young men “millionaire straw a line.”

    Comment by Mr.Attasit ponsen | January 14, 2010 | Reply

  13. Millionaire straw a line
    A young man bereaved parents and very poor. No matter, he would much diligent hard work however, he was also indigent man.
    One day, he worshipped the court into goddess “Guan Imran” then fall asleep.
    He dreamed that the goddess “Guan Imran” appear in front of his face and, told him that following his will be fortunate.
    When walked away from the court to the east, where done you fallen and whatever can you catches, hold it, he will be lucky.
    When young man woke up, He felt glad and fell into prostration goddess “Guan Imran”, then gone from court focused on the east.
    When, he was walk-tripping stone fall, the hands touch the ground that has a straw stick his hand.
    By the way, dragonfly was flying catch his hands, He tied body dragonfly stick with a straw,Dragonfly was flying a whirring sound.
    Next, he met a young children standing weep. He has sent a straw that tied a dragonfly,The children was gratified that it flew a whirring sound and, hold the straw that bound with a dragonfly.
    Mother’s children happied that a son stopped cry, so she given three oranges for young man.
    He continues to see a young women swoon because of thirst, then he given three oranges for maid of young women.
    The maid of young women felt grateful then she given three coils of silk.
    The young women continue walked shoulder three coil of silk.
    After that, he met a samurai sat side of his horse that was sick.
    The samurai requested for exchange him horse with silks.
    The young man sympathized a horse then he exchanged his silks with a horse and hand a horse to drink some water. Suddenly,horse was healthy.
    He cavorted a horse and gone to one of the largest castles. He requested to camp in the castle.
    The rich castles owners have seen a horse that good healthy then he want to buy it and blow the nose daughters taken money out.
    When the daughters took money out there and memorized a young man who gave three oranges for rescue her.
    That’s cause the castle owners induced the young man participation work together.
    Young men worked zealously then, The Millionaire entailed a daughter to marry with him.
    He had worked become a millionaire man, People was called the young men“millionaire straw a line.”

    Mr.Attasit ponsen
    Eiglish communisation international 2-1 ID:51501030111-4

    Comment by Mr.Attasit ponsen | January 14, 2010 | Reply

  14. A pine tree and soft wood
    Once up on a time,in a somewhere forest.a pine tree to said show off with soft wood that.”in this forest I am a most precious of wood.but you not has a precious.when a man hold a tomahawk to came forest for seek a wood construct a house.they likely need a pine tree as me.nobody need a worthless soft wood as you.”soft wood felt disgusted.so,it suddenly retorted that”likely true as you said.but each time a man hold a tomahawk to come forest.alike you want to be soft wood than a pine tree as me.yes or not”
    Moral:people who are rich or have sublime position always full of danger and enemy.but people who are poor well unknown or non honour.but they can live safely.

    Comment by น.ส.กานต์ธีรา ผลาผล | January 28, 2010 | Reply

  15. ครึ่งหนึ่งของชีวิต
    The half of life

    เมื่อความรักมันพังลง เราเหมือนคนไม่เต็มคน
    When love ends, I seem like human who is incomplete human.
    เหมือนครึ่งหนึ่งชีวิตนี้หล่นหาย
    it seem like half of my life is taken away
    แบ่งชีวิตให้เขาแล้ว เขาก็พามันจากไป
    I shared a part of my life to him, and he took it away.
    ไม่มีทางจะทำใจ ได้เลย
    There’s no way to get over with this

    ไม่เคยหันมองดูตัว มัวเสียดายวันเวลา
    Never looked back to myself, keep feeling sorry for the past
    ฝันว่าอาจจะคืนมาเหมือนเคย
    I hope that one day he may come back to me.
    เพิ่งจะรู้ว่ารักแท้ มันไม่ไกลไม่ห่างเลย
    I just realized that true love is not so far
    แค่เพียงกลับมาสนใจ ตัวเอง
    you only looked back and take care yourself

    *ครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่เราทำหายไป
    The half of life that you lost
    ต่อให้นอนเสียดายไปจนตาย มันก็เท่านั้น
    Ever you lay and deplored till you die. There’s nothing happen.
    เหลืออีกครึ่งชีวิต ที่มันยังต้องการ
    You had another half of life that still need you.
    ความรักตัวเองกลับมา ชีวิตมันมีคุณค่ากว่านี้
    You should back to love yourself. Your life had more worth than now.

    นั่งดูแขนมองดูมือ ดูหน้าตามองตัวเอง
    I looked at my arms and saw my hands. Then I saw my face and looked at myself.
    จ้องกระจกดูสักครั้งนั่นใคร
    Looked in a mirror and see who it reflects
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you saved all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม

    And soon your mind will be completed again
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you saved all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม
    And soon your mind will be completed again
    (solo)

    ( * )
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you keep all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม
    And soon your heart will be completed again

    Comment by นางสาว สุพรรษา ไววีระยุทธ | February 7, 2010 | Reply

  16. ครึ่งหนึ่งของชีวิต
    The half of life

    เมื่อความรักมันพังลง เราเหมือนคนไม่เต็มคน
    When love ends, I seem like human who is incomplete human.
    เหมือนครึ่งหนึ่งชีวิตนี้หล่นหาย
    it seem like half of my life is taken away
    แบ่งชีวิตให้เขาแล้ว เขาก็พามันจากไป
    I shared a part of my life to him, and he took it away.
    ไม่มีทางจะทำใจ ได้เลย
    There’s no way to get over with this

    ไม่เคยหันมองดูตัว มัวเสียดายวันเวลา
    Never looked back to myself, keep feeling sorry for the past
    ฝันว่าอาจจะคืนมาเหมือนเคย
    I hope that one day he may come back to me.
    เพิ่งจะรู้ว่ารักแท้ มันไม่ไกลไม่ห่างเลย
    I just realized that true love is not so far
    แค่เพียงกลับมาสนใจ ตัวเอง
    you only looked back and take care yourself

    *ครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่เราทำหายไป
    The half of life that you lost
    ต่อให้นอนเสียดายไปจนตาย มันก็เท่านั้น
    Ever you lay and deplored till you die. There’s nothing happen.
    เหลืออีกครึ่งชีวิต ที่มันยังต้องการ
    You had another half of life that still need you.
    ความรักตัวเองกลับมา ชีวิตมันมีคุณค่ากว่านี้
    You should back to love yourself. Your life had more worth than now.

    นั่งดูแขนมองดูมือ ดูหน้าตามองตัวเอง
    I looked at my arms and saw my hands. Then I saw my face and looked at myself.
    จ้องกระจกดูสักครั้งนั่นใคร
    Looked in a mirror and see who it reflects
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you saved all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม

    And soon your mind will be completed again
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you saved all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม
    And soon your mind will be completed again
    (solo)

    ( * )
    เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม
    Can you keep all the rest of your life, and make it better?
    แล้วไม่นานจิตใจจะเต็ม เหมือนเดิม
    And soon your heart will be completed again

    เพลง ครึ่งหนึ่งของชีวิต http://www.clipmass.com/movie/185605423514960

    Comment by นางสาว สุพรรษา ไววีระยุทธ | February 7, 2010 | Reply

  17. ลูกหมู 3 ตัว
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วยังมีหมูตัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆของเธอ 3 ตัว ในฟาร์มที่ล้าสมัยแต่แสนสุขใจ พี่คนโตของลูกหมูมีชื่อว่า “บราวนี่” พี่คนรองมีชื่อว่า “ไวท์ตี้” และน้องคนสุดท้องคนที่ดูดีที่สุดมีชื่อว่า “แบล็คกี้” ตอนนี้บราวนี่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขากลิ้งเกลือกในโคลน เขาจะไม่มีความสุขเลยในวันที่เฉอะแฉะเมื่อโคลนในฟาร์มอ่อนนิ่มและเหนียว

    ดังนั้นเขามักจะหนีแม่ของเขาไปข้างนอกและหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยโคลนในสวนแล้วก็กลิ้งเกลือกและสนุกสนานอย่างเต็มที่ แม่ของเขามักจะส่ายหัวด้วยความเศร้าใจแล้วพูดว่า “บราวนี่ จะมีวันไหนไหมที่ลูกจะเสียใจที่ไม่ยอมฟังแม่ที่แก่เฒ่าของตัวเอง” แต่ไม่มีคำไหนที่จะแนะนำหรือคำเตือนใด ที่จะสามารถแก้ไขนิสัยแย่ๆของเขาได้เลย

    ไวท์ตี้ เป็นลูกหมูที่ฉลาดแต่ว่าเธอตะกละ เธอมักจะตั้งตารอมื้อค่ำของเธอและ เมื่อหญิงที่ดูแลฟาร์มหิ้วถังข้ามมา ไวท์ตี้จะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ทันทีที่อาหารถูกเทลงในรางเธอก็ผลัก แบล็คกี้ และ บราวนี่ออกจากทาง ในความกระหายของเธอเธอจะได้รับส่วนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเธอเอง แม่ของเธอมักจะบอกว่า วันหนึ่งเธอจะลำบากจากความโลภ

    แบล็คกี้ เป็นลูกหมูที่ดีเป็นหมูน้อยน่ารักไม่สกปรกและไม่โลภ มีนิสัยประณีตและผิวของเขามักจะนุ่มและเปล่งปลั่งราวกับผ้าซาตินสีดำ เขาฉลาดกว่า บราวนี่และไวท์ตี้ หัวใจของแม่จะพองโตด้วยความภาคภูมิใจเมื่อเธอได้ยินเพื่อนๆชาวนาพูดว่าวันหนึ่งหมูน้อยตัวนี้จะเป็นหมูที่มีราคา

    เวลานั้นก็มาถึงแม่หมูเรียกลูกหมูทั้ง 3 ตัวมาหาและพูดว่า “ลูกแม่ แม่รู้สึกว่าแม่เริ่มแก่และอ่อนแอลงและแม่คงจะอยู่ได้อีกไม่นานก่อนที่แม่จะตายลูกควรจะสร้างบ้านสำหรับตัวลูกเอง ตอนนี้ บราวนี่ บ้านแบบไหนที่ลูกอยากจะมี?”
    “บ้านที่ทำจากโคลน” บราวนี่ตอบ ดูเหมือนว่าจะเป็นความต้องการที่จะมีโคลนที่เฉอะแฉะในมุมของสวน
    “แล้วลูกล่ะ ไวท์ตี้?” แม่หมูพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย ทางเลือกของไวท์ตี้คงจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง
    “บ้านกะหล่ำปลี” ไวท์ตี้ตอบ ปากของเธอเต็มเพราะเธอกำลังเคี้ยวมันฝรั่งอยู่
    “โง่ เด็กโง่” แม่หมูพูดค่อนข้างเป็นทุกข์ “ลูกล่ะ แบล็คกี้” เธอหันไปพูดกับลูกคนสุดท้องของเธอ
    “บ้านแบบไหนที่ลูกต้องการ”
    “บ้านอิฐครับแม่ มันจะอบอุ่นในหน้าหนาวและเย็นสบายในหน้าร้อนแถมยังปลอดภัยตลอดปี”
    “สมเหตุสมผลมากลูกน้อย” แม่ตอบ แม่คงจะเห็นบ้านสามหลังที่พร้อมสำหรับลูกนะ
    และนี่คือคำแนะนำสุดท้ายของแม่ ลูกคงเคยได้ยินแม่พูดถึงศัตรูเก่าของเราสุนัขจิ้งจอก มันเจ้าเล่ห์มากและไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องปลอมตัว และแกล้งทำว่าจะเป็นเพื่อนกับลูก แต่ลูกต้องสัญญากับแม่นะว่าจะไม่ให้มันเข้ามาในบ้านของลูกไม่ว่าจะมีข้ออ้างอะไรก็ตาม ลูกหมูสามตัวสัญญา และหลังจากนั้นไม่นานแม่หมูก็ตาย

    บราวนี่สุขสันต์อยู่กับกำแพงโคลนนุ่มๆกับพื้นดินเหนียวของเขาซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรแต่พายโคลนอันใหญ่ วันหนึ่งขณะที่เขากำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นในโคลน เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆและเสียงของสุภาพบุรุษก็พูดขึ้นว่า “ขอผมเข้าไปหน่อยได้ไหมคุณบราวนี่? ผมอยากจะดูบ้านใหม่ที่สวยงามของคุณ ”
    “คุณเป็นใคร?” บราวนี่พูด และเริ่มที่จะกลัว
    “ผมเป็นเพื่อนที่มาเยี่ยมเยียนคุณ” เสียงนั้นตอบ
    “ไม่ ไม่!!” บราวนี่ตอบ “เจ้าคือสุนัขจิ้งจอกชั่วร้ายคนที่แม่ของพวกเราเตือน ข้าจะไม่ให้เจ้าเข้ามาเด็ดขาด”
    “อ๋อ นี่หรือที่เจ้าตอบข้า” สุนัขจิ้งจอกพูดด้วยเสียงที่หยาบกร้าว ซึ่งเป็นเสียงธรรมชาติของมัน
    “เรามาดูกันว่าใครจะเหนือกว่า” พรางขูดกำแพงโคลนที่นุ่มเป็นรูกว้าง หลังจากนั้นมันก็กระโดดเข้าไปข้างในจับที่คอของบราวนี่และเหวี่ยงเขา

    วันต่อมา ขณะที่ไวท์ตี้กำลังเคี้ยวกะหล่ำปลีจาดบ้านของเธอ สุนัขจิ้งจอกลักลอบมาที่หน้าประตูบ้านของเธอ มันเริ่มจะพูดกับเธอด้วยเสียงสุภาพบุรุษเสียงเดียวกับที่มันเคยปลอมกับบราวนี่ ซึ่งทำให้เธอกลัวอย่างมากเมื่อมันพูด
    “ผมเป็นเพื่อนที่แค่มาเยี่ยมเยียนคุณ และผมมีกะหล่ำปลีอย่างดีสำหรับมื้อค่ำของเรา”
    “ได้โปรดอย่างแตะต้องมัน” ไวท์ตี้ร้องด้วยความทุกข์ “กะหล่ำปลีเหล่านี้เป็นกำแพงของบ้านฉัน ถ้าหากว่าเจ้ากินมัน เจ้าจะทำบ้านฉันเป็นรู ลมและฝนจะพัดเข้ามาและทำให้ฉันหนาว ไปให้พ้น! ฉันแน่ใจว่าเจ้าไม่ใช่เพื่อน แต่ว่าเจ้าคือศัตรูที่ชั่วร้ายของเราเจ้าสุนัขจิ้งจอก!” แต่น่าสงสารไวท์ตี้เริ่มจะสะอื้นและส่งเสียงร้องครวญคราง เธอปรารถนาที่จะไม่เป็นหมูน้อยที่โลภและจะเลือกวัสดุของแข็งแทนกะหล่ำปลีสำหรับทำบ้านของเธอ แต่ทว่าสายไปแล้วและไม่กี่นาทีสุนัขจิ้งจอกก็กินผ่านกำแพงและจับไวท์ตี้ที่ตัวสั่นระรัวไปที่ถ้ำของมัน

    วันต่อมาสุนัขจิ้งจอกเริ่มออกไปที่บ้านของแบล็คกี้ แต่เมื่อเขาหาบ้านอิฐ เขาก็พบประตูที่ล็อคกลอนและลูกกรง นิสัยเจ้าเล่ห์ของมันก็เริ่มขึ้น
    “ให้ผมเข้าไปเถอะแบล็คกี้ที่น่ารัก ผมได้ซื้อไข่มาเป็นของขวัญให้คุณ ผมเก็บมันมาจากฟาร์มด้วยมือของผมเลยนะ”
    “ไม่ คุณสุนัขจิ้งจอก” แบล็คกี้ตอบ “ผมจะไม่เปิดประตูให้คุณหรอก ผมรู้ความเจ้าเล่ห์ของคุณ”
    สุนัขจิ้งจอกโกรธมากมันกระแทกกำแพงและพยายามที่จะทุบให้มันพังลง แต่มันแข็งแรงมากและถูกสร้างมาอย่างดี ถึงแม้ว่าสุนัขจิ้งจอกจะคุ้ยและทุบไปที่อิฐด้วยกรงเล็บ แต่ก็ทำให้ตัวมันเองเจ็บ สุดท้ายมันก็ต้องยอมแพ้ มันอ่อนแรง และเท้าของมันมีเลือดออกและเจ็บปวด
    “ไม่เป็นไร!” มันตะโกนแล้วก็จากไป “ข้าจะมาจับเจ้าอีกวันหนึ่ง คอยดูเถอะ ข้าจะบดกระกระดูกของเจ้าให้เป็นผุยผง เมื่อข้ามีเจ้าอยู่ในถ้ำของข้า” และมันก็แยกเขี้ยวคำรามด้วยความดุร้าย

    วันต่อมาแบล็คกี้ต้องเข้าไปในเมืองเพื่อไปจ่ายตลาดและซื้อกาน้ำ ขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้าน เขาได้ยินเสียงฝีเท้าลับๆล่อๆลืบคลานอยู่ข้างหลังเขา ทันใดนั้นหัวใจของเขาสั้นระรัวด้วยความกลัวเขาขึ้นไปที่ยอดเขาที่สามารถเห็นบ้านของเขาตรงตีนเขาท่ามกลางต้นไม้ ในขณะนั้นเขาคว้าฝาปิดกาน้ำออกและกระโดดเข้าไปข้างใน ขดตัวอยู่รอบๆ เขาปิดฝากาต้มน้ำให้สนิทและขาหน้าของเขา เขาก็จัดการเปิดมันออกและซ่อนตัวทีเดียว เท้าเล็กก็เริ่มเข้าไปอยู่ในกาน้ำและกลิ้งลงจากเขาที่ลาดเอียง สนุขจิ้งจอกเห็นกาต้มน้ำสีดำใบใหญ่หมุนไปตามพื้นด้วยความเร็วแต่กาน้ำหยุดใกล้กับบ้านอิฐหลังเล็ก และจากนั้นแบล็คกี้ก็กระโดดออกมาเละวิ่งเข้าไปข้างใน เขาล็อคกลอนประตูแล้วเขาก็เอาบานเกล็ดขึ้นเหนือหน้าต่าง
    “ไม่นะ” สุนัขจิ้งจอกอุทาน “เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีข้าได้ด้วยวิธีนี้งั้นหรอ! เราจะได้เห็นดีกัน เพื่อนรัก!” เขาเดินด้อมๆมองๆไปรอบๆบ้านอย่างเงีบย เหมือนว่ากาน้ำเริ่มจะร้อง เขาได้ยินเสียงเปาะปะๆ เปาะแปะ ๆ เหนือหัว หลังจากนั้นหัวของสุนัขจิ้งจอกและอุ้งเท้ากำลังลงมาจากปล่องไฟกับเสียงร้องเอ๋งของสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้จอกตกลงไปในน้ำที่กำลังเดือดและนั่นคือจุดจบของมัน ทันทีที่เขาแน่ใจว่าศัตรูที่ชั่วร้ายของเขาไม่สามารถทำอันตรายพวกเขาได้อีกแล้ว แบล็คกี้ กลับไปช่วยชีวิต บราวนี่และไวท์ตี้ เขาได้ยินเสียงร้องที่น่างสงสารจากพี่ชายและพี่สาวของเขาดังมาจากในถ้ำ เมื่อพวกเขาเห็นแบล็คกี้พวกเขาดีใจมากที่รู้ว่าแบล็คกี้ไม่ถูกจับตัว แบล็คกี้รีบหาหินที่แหลมคมและตัดเชือกขาด บราวนี่เลิกกลิ้งเกลือกในโคลนและไวท์ตี้ก็เลิกเป็นหมูตะกละเพราะพวกเขาไม่เคยลืมเลยว่าความผิดพลาดเหล่านี้จะนำพวกเขาไปสู่จุดจบที่ไม่ดี

    นางสาวหัทยา ญาณสะอาด 51501030100-7
    English for International Communiation

    Comment by HatayaYansaard | February 7, 2010 | Reply

  18. นายพรานกับคนตัดไม้
    นายพรานขี้ขลาดกำลังหาร่องรอยของสิงโต เขาถามชายที่กำลังโค่นต้นโอ๊คในป่า ถ้าท่านเห็นรอยเท้าของสิงโตหรือรู้ที่ซ่อนของมัน “ตกลง”ชายตัดไม้พูด “นั่นไงตัวสิงโต” นายพรานหันหลังหน้าซีดและและฟันของเขากระทบกันด้วยความกลัว และตอบ “ไม่ ขอบคุณ” ข้าได้ถามถึงสิ่งนี้ มันเป็นแค่ร่องรอยเท่านั้นที่ข้าหา ไม่ใช่ตัวสิงโต

    คติ:วีรบุรุษผู้กล้าหาญต้องรีกษาสัญญาดีเท่ากับคำพูด

    นางสาวหัทยา ญาณสะอาด 51501030100-7
    English for International Communication

    Comment by HatayaYansaard | February 7, 2010 | Reply

  19. ชาวประมง

    ชาวประมงคนหนึ่งหยิบปี่สก๊อตไปที่ชายฝั่งของแม่น้ำ และเล่นมันเพื่อหวังว่าจะทำให้มีปลาปรากฏขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่มีปลาตัวไหนโผล่ขึ้นมาบนน้ำเลย ดังนั้นเขาจึงเหวี่ยงแหลงไปในน้ำ และในไม่ช้าเขาก็ลากแหที่เต็มไปด้วยปลาขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็หยิบปี่ขึ้นมาและเล่นเพลงอีกครั้ง ปลาก็กระโดดขึ้นมาบนแห “อ้า…เมื่อฉันเล่นเพลงเจ้าจงเต้นเดี๋ยวนี้” เขาพูด
    “ได้สิ” ปลาแก่พูด

    คติ: เมื่อคุณอยู่ในอำนาจของใครสักคน คุณต้องทำตามคำสั่งของเขา

    นางสาวยุวดี บุญมาเลิศ 51501030081-9
    English for International Communication 2-2

    Comment by Miss Yuwadee Boonmalert | February 8, 2010 | Reply

  20. สิงโตกับนกอินทรี
    นกอิทรีซึ่งต่อสู้กับสิงโตและอ้อนวอนสิงโตให้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรซึ่งมีผลประโยชน์ร่วมกัน
    สิงโตตอบนกอินทรีว่า “ข้าไม่คัดค้าน” แต่เจ้าต้องทำตามคำเรียกร้อง แล้วเจ้าจะหาใครมารับรองว่าสิ่งที่เจ้าพูดนั้นเป็นความจริวเพราะว่าข้าจะสามารถจะเชื่อผู้อื่นได้เท่ากับเพื่อนผู้ซึ่งสามารถบินหนีไปที่ใดก็ได้ที่เขาอยากจะไปได้อย่างไร

    คติ:ลองก่อนที่จะเชื่อ

    Comment by วิรุทัย อิทธิฤทธิ์ไพศาล | February 8, 2010 | Reply

  21. กบกับบ่อน้ำ
    กบ2ตัวอาศัยอยู่ในโคลน วันหนึ่งในฤดูร้อนโคลนได้แห้งลง พวกมันจึงมองหาสถานที่ใหม่เพื่อจะไปอาศัยในที่ที่มันชอบเป็นที่ที่ชื้นถ้าพวกมันสามารถหาได้ จากนั้นมันก็พบบ่อน้ำลึก หนึ่งในพวกมันมองลงไปในบ่อน้ำและพูดกับอีกตัวหนึ่งว่า”นี่ดูจะเป็นสถานที่ที่เยี่ยมเลยทีเดียว เรากระโดดลงไปและย้ายมาอยู่ที่นี่กันเถอะ” แต่อีกตัวหนึ่งซึ่งมีความฉลาดตอบว่า”อย่าเพิ่งเพื่อนสมมุติว่าบ่อน้ำห้งเหมือนบ่อโคลน เราจะขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร”

    คติ:คิดก่อนทำ

    Comment by Saowaluk Saekoo | February 8, 2010 | Reply

  22. พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน(tomorrow is not too late for love)
    เพียงแค่มองในตา ก็รู้ว่าเราชอบกัน แต่เราสองคนต้องเก็บมันไว้
    ในเมื่อความเป็นจริง ก็รู้กันในหัวใจ เรายังเป็นได้แค่เพียงเพื่อนกัน
    your eyes and mine are saying love to each other, but we must keep it and not to go any further
    Friend is the best word to describe our deep affair
    * แม้ใจเราจริงจังเท่าไร ไม่มีใครเต็มใจให้รักกัน
    คงยังไม่ถึงเวลาของเรา
    even we take it seriously, no one wants us to be there
    for thousands of reasons we both know, but somehow…
    may be “there” is not here for us, just for now..
    ** อดทนเก็บความในใจ แล้วรอแค่วันเวลา
    ให้มันหมุนช้า ๆ แล้วเดินไปกับมัน
    bear with every trouble, just wait and they’ll be better
    let it goes for some times and walk together

    *** อดทนเก็บความในใจ แล้วเรียนรู้กันและกัน
    เพื่อให้เรามีความมั่นใจ ว่าเรานั้นมีความลึกซึ้งเพียงใด
    พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน
    keep that word in your heart and learn to live without it
    it doesn’t matter that we’re friends for today
    it’s not the end because our hearts will stay
    tomorrow will be there for us no matter how long it takes
    if we belief in our love and act without fake

    วันนี้แม้ จะเป็นเพียงเพื่อนก็ไม่สำคัญ เมื่อใจให้กันจะหวั่นอะไร …
    วันข้างหน้าจะมา จะช้าจะนานเท่าไหร่ คงเป็นอะไรได้มากกว่านั้น
    (ซ้ำ * , ** , ***)
    today it doesn’t matter that we’re friends
    it’s not the end because our hearts will stay
    tomorrow will be there for us no matter how long it takes

    (ซ้ำ * , ** , ***)
    หากว่าเรามีความมั่นใจ หากว่าเรามีความรักแท้ในใจ …พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน…
    If we are surely with our true love “tomorrow is not too late for love”

    Comment by วิรุทัย อิทธิฤทธิ์ไพศาล | February 8, 2010 | Reply

  23. เพลง : คำสุดท้าย
    Song: The last word
    ศิลปิน: สล็อตแมชชีน
    Artist: Slotmachine
    อัลบั้ม: Mutation
    Albums: Mutation

    รักเธอ รักเธอ ที่เคยพูดไป
    Love you love you, the word that I have ever said.

    คงไม่มีความหมายสักเท่าไร
    It is meaningless.

    ถ้าเธอไม่มั่นใจ กับสิ่งที่ฉันได้ให้ไป ก็คง ช้ำใจ
    If you doubtful my feelling that I give you, I’ll be hurt.

    * รักเธอ รักเธอ ที่เคยพูดไป
    Love you love you, the word that I have ever said.

    นานเท่าไร คำนั้นยังคงเดิม
    This word never change forever.

    หมดไปแล้วทั้งใจ ไม่อาจรักเธอมากเกิน เท่านี้ ไม่ขอ มากมาย
    I give you all of my heart, I can’t love you more, I need nothing.

    ** เพียง คำพูดคำสุดท้าย จะรักแค่เธอไปจนวันตาย หมดสิ้นแล้วทุกสิ่ง
    ** Just the last word I’ll love only you until I die. It’s all gone everything.

    แต่ฉัน ไม่รู้ว่านานแค่ไหน วันที่ฉันหมดลมหายใจ แต่ใจฉันยังคง รักเธอ
    I don’t know how it long. The day that I’m lifeless, but my heart still love you.

    (*,**)
    solo..

    (*) ( เธอคงรู้มีใคร รักเธอ )

    (*)( You’ll know someone love you).

    http://www.clipmass.com/movie/124954013718443

    Comment by Miss Yuwadee Boonmalert | February 11, 2010 | Reply

  24. เพลง : คำสุดท้าย
    Song: The last word
    ศิลปิน: สล็อตแมชชีน
    Artist: Slotmachine
    อัลบั้ม: Mutation
    Albums: Mutation

    รักเธอ รักเธอ ที่เคยพูดไป
    Love you love you, the word that I have ever said.

    คงไม่มีความหมายสักเท่าไร
    It is meaningless.

    ถ้าเธอไม่มั่นใจ กับสิ่งที่ฉันได้ให้ไป ก็คง ช้ำใจ
    If you doubtful my feelling that I give you, I’ll be hurt.

    * รักเธอ รักเธอ ที่เคยพูดไป
    Love you love you, the word that I have ever said.

    นานเท่าไร คำนั้นยังคงเดิม
    This word never change forever.

    หมดไปแล้วทั้งใจ ไม่อาจรักเธอมากเกิน เท่านี้ ไม่ขอ มากมาย
    I give you all of my heart, I can’t love you more, I need nothing.

    ** เพียง คำพูดคำสุดท้าย จะรักแค่เธอไปจนวันตาย หมดสิ้นแล้วทุกสิ่ง
    ** Just the last word I’ll love only you until I die. It’s all gone everything.

    แต่ฉัน ไม่รู้ว่านานแค่ไหน วันที่ฉันหมดลมหายใจ แต่ใจฉันยังคง รักเธอ
    I don’t know how it long. The day that I’m lifeless, but my heart still love you.

    (*,**)
    solo..

    (*) ( เธอคงรู้มีใคร รักเธอ )
    (*)( You’ll know someone love you).

    MV คำสุดท้าย – slotmachineดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่

    Comment by Miss Yuwadee Boonmalert | February 11, 2010 | Reply

  25. เนื้อเพลง: หยุดได้ไหม
    อัลบั้ม: เล้าโลม

    หลายคนต้องทนเจ็บ กับคำว่าแอบรัก
    กับการเป็นคนอกหัก ไปรักเขาฝ่ายเดียว
    หลายคนต้องทนดู คนรักไม่แลเหลียว
    แต่เธอรู้ไหม ว่าใครเจ็บช้ำยิ่งกว่านั้น

    MANY PEOPLE GETTING HURT WITH “LOVE”
    BECOME SOME ONE WHO LOVELORN COS UNILATERAL LOVE
    MANY PEOPLE HAVE TO ENDURABLE WITH SOME ONE WHO NEVER HAVE A LOVE WITH THEM
    BUT DO YOU KNOW THAT WHO GET MORE PAIN.

    เป็นฉันเอง ที่รักเธอ
    และเธอนั้น ก็พูดว่ารักกัน
    แต่เหมือนเธอยังหาใคร

    IS ME WHO LOVE YOU SO MUCH
    AND YOU SAY THAT WE LOVE EACH OTHER
    BUT IT SEEM LIKE A YOU STILL LOOKING FOR SOMEONE

    ฉันหยุดแล้ว แล้วเธอหยุดได้ไหม
    ทำได้ไหมมีฉันเพียงคนเดียวในหัวใจ
    เธอจะเลือกจะมองหา หาใครไปถึงไหน
    ถ้ารักอย่างนี้ ไม่รักยังดีกว่าเลย

    I ALREADY STOP IT THEN CAN YOU DO THE SAME PLEASE
    CAN YOU HAVE ME IN DEEPLY YOUR MIND
    YOU CHOOSE TO LOOKING FOR SOME ONE ANY MORE
    IF THIS IS YOUR LOVE ,IT BETTER IF YOU COULDN’T LOVE ME ANY

    รู้ไหมว่าฉันเอง
    ก็อยากมองใครเผื่อไว้
    แต่เพราะรักเธอ
    ก็เลยไม่คิดอยากเผื่อใจ
    อะไรไม่ดีพอ
    บอกฉันให้แก้ไข
    หากยังรักกัน
    อย่าไปมองหาใครอีกเลย

    DO YOU KNOW ABOUT MYSELF THAT WANT TO LOOK FOR SOME ONE AS WELL
    BUT I DON’T COS I LOVE YOU THEN I STOP THAT IDEA.
    YOU CAN TELL ME TO AMEND, IF SOMETHING IN MYSELF NO GOOD ENOUGH.
    COULD YOU STOP TO LOOK FOR SOMEONE PLEASE.

    ก็ฉันเอง มันรักเธอ และเธอนั้น ก็พูดว่ารักกัน
    แต่เหมือนเธอยังหาใคร

    COS I LOVE YOU AND YOU SAY THAT WE LOVE EACH OTHER BUT IT SEEM LIKE A YOU STILL LOOKING FOR SOMEONE.

    Comment by จารุวรรณ ภูกองทุ่ง | February 12, 2010 | Reply

  26. เศรษฐีขี้โกง

    A Tricky rich man
    There was a tricky rich man. He had dote on a poor man’s daughter. One day the poor man and his daughter came to the rich man’s house. In the garden full of a little rock , both white and black
    The rich man said to the poor man “You’ve a lot of debt with me, but if you give your daughter to me I’ll discharge all of your debt. The poor man to be silent
    The rich man still to find the way next “So, we go to gamble ok? I’ll take two rock from the garden and put in this bag , one for black and one for white. And Then your daughter will take for one rock from this bag, if she take a white I’ll discharge your debt and she doesn’t marry me , but if she take a black she must get marry me and that for sure I’ll discharge your debt too.
    It had no more ways to decline , the poor man must say yes. The rich man take two rock put into the bag. The girl saw the rock was both of black. What will she do? If she didn’t expose the truth the rich man will be lose face and cancel this game and her father had in debt for a long time
    The poor man’s daughter put her hand into the bag and take the rock , Suddenly she let the rock fall down to the ground and to be harmony with black and white of the rock in the garden. She looks at the rich man and said “I’m apologize that I make a slip and let the rock fall down, but don’t worry even though you put one white and one black in the bag , therefore when we open the bag to see color of the rock we’ll know what color of the rock that I take
    That for sure in the bag had a black rock “So, the rock that I take is should be white” Father was quit of a debtor and his daughter didn’t married with the tricky rich man
    Moral : If you try enough to repair every problems, that always have the way to repair it.
    Most of people teach for see the problems like a black and white but isn’t
    For every problems can be repair as black and white. In contrast, if you in different ways. You always found the way to repair it more than one ways and the way that you make the problem to be smooth for situation is a one way.
    Sometime to repair the problems we’ll make a new tool for it . In cold war period that long for many ten years, lose a lot of life and natural resources. No one believe the cold war to be done or quick like this
    In period of Mikhail Sergeyevich Gorbachyov, he said : “To silly if you think the problems that besiege the human right now can be repair with the tool and method was ever successful in the past” If he doesn’t like that , sometime to day the soviet social can’t be open the county and peaceful during white side and red side to linger for a long time “The world there aren’t white and black”

    Comment by Miss Assama Temjai | February 13, 2010 | Reply

  27. มีบ้านที่มั่นคงหลังหนึ่งเต็มไปด้วยหนูที่วิ่งไปวิ่งมา แมวตัวหนึ่งปรากฎตัวขึ้นบนทางที่หนูวิ่งและก็เริ่มที่จะจับหนูกินทีละตัว ความหวาดกลัวในที่อยู่อาศัย พวกหนูเก็บตัวเงียบอยู่ในรูของมันจนแมวไม่สามารถจับหนูกินได้ และรู้ว่าต้องล่อลวงพวกมันออกมาโดยบางแผนการ เพื่อจุดประสงค์นี้เธอกระโดดขึ้นไปแขวนตัวอยู่บนหมุด แสแสร้งทำเป็นตาย หนูตัวหนึ่งในนั้นส่งเสียงร้องออกมาท่ามกลางความเงียบมองเธอและพูดว่า “โอ้ คุณผู้หญิงที่รัก แม้ว่าคุณควรจะกลับไปเป็นมื้ออาหาร พวกเราก็จะไม่เข้าใกล้คุณอีก

    คนที่เคยถูกหลอกก็จะมีความรอบคอบมากขึ้น

    Comment by น.ส.ชมพูนุท แสงทองดี | February 15, 2010 | Reply

  28. แมวกับหนู

    มีบ้านที่มั่นคงหลังหนึ่งเต็มไปด้วยหนูที่วิ่งไปวิ่งมา แมวตัวหนึ่งปรากฎตัวขึ้นบนทางที่หนูวิ่งและก็เริ่มที่จะจับหนูกินทีละตัว ความหวาดกลัวในที่อยู่อาศัย พวกหนูเก็บตัวเงียบอยู่ในรูของมันจนแมวไม่สามารถจับหนูกินได้ และรู้ว่าต้องล่อลวงพวกมันออกมาโดยบางแผนการ เพื่อจุดประสงค์นี้เธอกระโดดขึ้นไปแขวนตัวอยู่บนหมุด แสแสร้งทำเป็นตาย หนูตัวหนึ่งในนั้นส่งเสียงร้องออกมาท่ามกลางความเงียบมองเธอและพูดว่า “โอ้ คุณผู้หญิงที่รัก แม้ว่าคุณควรจะกลับไปเป็นมื้ออาหาร พวกเราก็จะไม่เข้าใกล้คุณอีก

    คนที่เคยถูกหลอกก็จะมีความรอบคอบมากขึ้น

    Comment by น.ส.ชมพูนุท แสงทองดี | February 15, 2010 | Reply

  29. เพลง : ใกล้
    Song: Near
    ศิลปิน: บอย โกสิยพงษ์
    Artist: Boyd Kosiyabong
    Feat.Ben(Chalatit Tantiwut)

    ต่างคนต่างใจและต่างความฝัน เปิดใจให้กันและกันดีไหม
    รับรู้เป็นสองทาง ระหว่างใจและใจ แม้ว่าเรานั้นห่างกันเพียงไหน
    Different people are feeling and different dreams. Open to each other some good.
    Realize a two-way. Between heart and mind. Although we are just how far apart.

    (เพราะ)(เราก็จะ)ใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังยิ่งใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ
    ใกล้เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังแค่ไหน ยิ่งใกล้ข้างในหัวใจ
    (It) (we are) close. Go inside the heart. Listen very close even more talk. Go inside the heart.
    Near side of the heart into. More talk of how great listening. Very close above the heart.

    แม้วันเวลาจะมาเปลี่ยน แม้มีกำแพงกรอบความคิด
    ขอเพียงใจเราไม่ยึดติด ก็คงไม่มีอะไรกั้นเราไว้
    Although date and time will change. Although there are conceptual barriers.
    We ask only be independent. What we would not have.

    (เพราะ)(เราก็จะ)ใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังยิ่งใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ
    ใกล้เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังแค่ไหน ยิ่งใกล้ข้างในหัวใจ
    (It) (we are) close. Go inside the heart. Listen very close even more talk. Go inside the heart.
    Near side of the heart into. More talk of how great listening. Very close above the heart.

    (เพราะ)(เราก็จะ)ใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังยิ่งใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ
    ใกล้เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังแค่ไหน ยิ่งใกล้ข้างในหัวใจ
    (It) (we are) close. Go inside the heart. Listen very close even more talk. Go inside the heart.
    Near side of the heart into. More talk of how great listening. Very close above the heart.

    (เพราะ)(เราก็จะ)ใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังยิ่งใกล้ เข้าไปข้างในหัวใจ
    ใกล้เข้าไปข้างในหัวใจ ยิ่งพูดยิ่งฟังแค่ไหน ยิ่งใกล้ข้างในหัวใจ
    (It) (we are) close. Go inside the heart. Listen very close even more talk. Go inside the heart.
    Near side of the heart into. More talk of how great listening. Very close above the heart.

    Comment by จุฑารัตน์ ทิมาบุตร | February 15, 2010 | Reply

  30. เพลง :มุม Conner
    ศิลปิน : Playground

    หากใครคนนึงมีคำถาม ซักวันคุณอยากจะพบใคร
    If someone asks you questions “Someday who do you want to meet?”
    คำตอบในใจ คือ ใครที่คุณต้องการ
    The answer in your heart, who do you want?
    เธอคือคนที่ดีพร้อม ใครๆต่างพากันชอบเธอ
    You are a perfect woman who everybody likes.
    เธอ คือ คำตอบที่ทุกหัวใจใฝ่ฝัน
    You are the answer that every hearts dream of.
    และฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    And I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    but I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    *ได้แอบมองเธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้
    *I look at you secretly from just my own side on this corner.
    ก็พอแล้ว ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในความหวังดี
    It’s enough. No condition in my good intentions.
    แค่ได้ชอบเธออยู่ตอนนี้ ก็ถือเป็นโชคชะตาดีๆ
    I just like you right now; it is my good destiny
    ที่คนอย่างฉันได้เกิดมาพบกับเธอ
    that I was born and meet you.

    หากเราใกล้กันมากกว่านี้ สักวันมันอาจจะไม่ดี
    If we are closer than now, someday it might be bad.
    บางสิ่งในใจฉันอาจทำเธอลำบากก็ปล่อยเธอลอยอยู่บนฟ้า
    Something in my heart might make you in trouble. I’ll let you float in the sky.
    ขอมองดูเธอจากพื้นดิน แค่เพียงได้เห็นเธอฉันก็สุขใจแล้ว
    I ask for looking at you from the ground. I just see you; I’m happy.

    แม้ฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    Even though I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    (*)
    และถ้าวันนึงเธอเหนื่อยล้าจากเรื่องต่างๆ
    And if one day you are exhausted from many problems
    จนเธอรู้สึกว่าโลกนี้เหมือนกับไม่เหลือใคร
    until you feel as if you didn’t have anybody in this world.
    โปรดจงรู้..เอาไว้
    Please know…
    ว่าโลกนี้ยังมีความห่วงใยจากมุมเล็กๆตรงนี้เสมอ
    that there’s always my concern from this small corner in this world.

    (*)

    Comment by MissChomphunut Saengthongdee | February 18, 2010 | Reply

  31. 30.เพลง :มุม Corner
    ศิลปิน : Playground

    หากใครคนนึงมีคำถาม ซักวันคุณอยากจะพบใคร
    If someone asks you questions “Someday who do you want to meet?”
    คำตอบในใจ คือ ใครที่คุณต้องการ
    The answer in your heart, who do you want?
    เธอคือคนที่ดีพร้อม ใครๆต่างพากันชอบเธอ
    You are a perfect woman who everybody likes.
    เธอ คือ คำตอบที่ทุกหัวใจใฝ่ฝัน
    You are the answer that every hearts dream of.
    และฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    And I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    but I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    *ได้แอบมองเธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้
    *I look at you secretly from just my own side on this corner.
    ก็พอแล้ว ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในความหวังดี
    It’s enough. No condition in my good intentions.
    แค่ได้ชอบเธออยู่ตอนนี้ ก็ถือเป็นโชคชะตาดีๆ
    I just like you right now; it is my good destiny
    ที่คนอย่างฉันได้เกิดมาพบกับเธอ
    that I was born and meet you.

    หากเราใกล้กันมากกว่านี้ สักวันมันอาจจะไม่ดี
    If we are closer than now, someday it might be bad.
    บางสิ่งในใจฉันอาจทำเธอลำบากก็ปล่อยเธอลอยอยู่บนฟ้า
    Something in my heart might make you in trouble. I’ll let you float in the sky.
    ขอมองดูเธอจากพื้นดิน แค่เพียงได้เห็นเธอฉันก็สุขใจแล้ว
    I ask for looking at you from the ground. I just see you; I’m happy.

    แม้ฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    Even though I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    (*)
    และถ้าวันนึงเธอเหนื่อยล้าจากเรื่องต่างๆ
    And if one day you are exhausted from many problems
    จนเธอรู้สึกว่าโลกนี้เหมือนกับไม่เหลือใคร
    until you feel as if you didn’t have anybody in this world.
    โปรดจงรู้..เอาไว้
    Please know…
    ว่าโลกนี้ยังมีความห่วงใยจากมุมเล็กๆตรงนี้เสมอ
    that there’s always my concern from this small corner in this world.

    (*)
    30.เพลง :มุม Conner
    ศิลปิน : Playground

    หากใครคนนึงมีคำถาม ซักวันคุณอยากจะพบใคร
    If someone asks you questions “Someday who do you want to meet?”
    คำตอบในใจ คือ ใครที่คุณต้องการ
    The answer in your heart, who do you want?
    เธอคือคนที่ดีพร้อม ใครๆต่างพากันชอบเธอ
    You are a perfect woman who everybody likes.
    เธอ คือ คำตอบที่ทุกหัวใจใฝ่ฝัน
    You are the answer that every hearts dream of.
    และฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    And I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    but I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    *ได้แอบมองเธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้
    *I look at you secretly from just my own side on this corner.
    ก็พอแล้ว ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในความหวังดี
    It’s enough. No condition in my good intentions.
    แค่ได้ชอบเธออยู่ตอนนี้ ก็ถือเป็นโชคชะตาดีๆ
    I just like you right now; it is my good destiny
    ที่คนอย่างฉันได้เกิดมาพบกับเธอ
    that I was born and meet you.

    หากเราใกล้กันมากกว่านี้ สักวันมันอาจจะไม่ดี
    If we are closer than now, someday it might be bad.
    บางสิ่งในใจฉันอาจทำเธอลำบากก็ปล่อยเธอลอยอยู่บนฟ้า
    Something in my heart might make you in trouble. I’ll let you float in the sky.
    ขอมองดูเธอจากพื้นดิน แค่เพียงได้เห็นเธอฉันก็สุขใจแล้ว
    I ask for looking at you from the ground. I just see you; I’m happy.

    แม้ฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    Even though I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    (*)
    และถ้าวันนึงเธอเหนื่อยล้าจากเรื่องต่างๆ
    And if one day you are exhausted from many problems
    จนเธอรู้สึกว่าโลกนี้เหมือนกับไม่เหลือใคร
    until you feel as if you didn’t have anybody in this world.
    โปรดจงรู้..เอาไว้
    Please know…
    ว่าโลกนี้ยังมีความห่วงใยจากมุมเล็กๆตรงนี้เสมอ
    that there’s always my concern from this small corner in this world.

    (*)
    30.เพลง :มุม Conner
    ศิลปิน : Playground

    หากใครคนนึงมีคำถาม ซักวันคุณอยากจะพบใคร
    If someone asks you questions “Someday who do you want to meet?”
    คำตอบในใจ คือ ใครที่คุณต้องการ
    The answer in your heart, who do you want?
    เธอคือคนที่ดีพร้อม ใครๆต่างพากันชอบเธอ
    You are a perfect woman who everybody likes.
    เธอ คือ คำตอบที่ทุกหัวใจใฝ่ฝัน
    You are the answer that every hearts dream of.
    และฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    And I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    but I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    *ได้แอบมองเธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้
    *I look at you secretly from just my own side on this corner.
    ก็พอแล้ว ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในความหวังดี
    It’s enough. No condition in my good intentions.
    แค่ได้ชอบเธออยู่ตอนนี้ ก็ถือเป็นโชคชะตาดีๆ
    I just like you right now; it is my good destiny
    ที่คนอย่างฉันได้เกิดมาพบกับเธอ
    that I was born and meet you.

    หากเราใกล้กันมากกว่านี้ สักวันมันอาจจะไม่ดี
    If we are closer than now, someday it might be bad.
    บางสิ่งในใจฉันอาจทำเธอลำบากก็ปล่อยเธอลอยอยู่บนฟ้า
    Something in my heart might make you in trouble. I’ll let you float in the sky.
    ขอมองดูเธอจากพื้นดิน แค่เพียงได้เห็นเธอฉันก็สุขใจแล้ว
    I ask for looking at you from the ground. I just see you; I’m happy.

    แม้ฉันเป็นคนที่ประทับใจเธอเช่นกัน
    Even though I’m impressed with you too,
    แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะพูดไป
    I don’t dare to say it.
    ได้แต่ยิ้มให้เธอเบาๆ อยู่ในมุมที่เธอไม่สนใจ
    I just smile at you a little on the corner which you aren’t interested in.
    แอบมองดูเธอไกลๆ อย่างนี้ต่อไป
    I will continue looking at you secretly from far away like this.

    (*)
    และถ้าวันนึงเธอเหนื่อยล้าจากเรื่องต่างๆ
    And if one day you are exhausted from many problems
    จนเธอรู้สึกว่าโลกนี้เหมือนกับไม่เหลือใคร
    until you feel as if you didn’t have anybody in this world.
    โปรดจงรู้..เอาไว้
    Please know…
    ว่าโลกนี้ยังมีความห่วงใยจากมุมเล็กๆตรงนี้เสมอ
    that there’s always my concern from this small corner in this world.

    (*)

    Comment by MissChomphunut Saengthongdee | February 18, 2010 | Reply

  32. รู้ไหมว่าฉันรักเธอมาก และก็แน่ใจว่าเป็นเธอ.. ใช่คนนี้

    Know that I love her too much? And it sure is she .. Yes, this.

    รู้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร เธอมีดีอยู่ที่ตรงไหน

    Know that is why? She is good at where.

    จึงได้รักเธอเหลือเกิน..

    Has loved her exceedingly ..

    เพราะว่าฉันเองเคยมีความลับบางอย่าง

    Because I own have some secrets.

    มันก็ยังเคยเป็นปมด้อยในใจได้แต่ปิดบังกลัวใครๆ จะรู้..

    It was also a weak point in mind, but others fear to hide know ..

    แล้ววันนึงเธอมาพบความจริง เธอก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไร

    Now her concern to find Truth. She also confirmed that it does not matter.

    บอกว่ารับเรื่องของฉันได้ เธอไม่แคร์..

    It’s been said that she does not care ..

    รู้ไหมคนดี นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันรักเธอ..

    Know some good people here is why I love her ..

    ทุกๆ ครั้งที่ฉันใกล้เธอ เหมือนว่าฉันมีค่าขึ้นมาทุกทีที่เจอ มีเธอเข้าใจ

    Every time I close to her. I like that has cost anywhere up to meet with her to understand.

    เพราะว่าฉันเองเคยมีความลับบางอย่าง
    Because I own have some secrets.
    มันก็ยังเคยเป็นปมด้อยในใจได้แต่ปิดบังกลัวใครๆ จะรู้..
    It was also a weak point in mind, but others fear to hide know ..
    แล้ววันนึงเธอมาพบความจริง เธอก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไร
    Now her concern to find Truth. She also confirmed that it does not matter.
    บอกว่ารับเรื่องของฉันได้ เธอไม่แคร์..
    It’s been said that she does not care ..
    รู้ไหมคนดี.. นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันรักเธอ..
    Know some good people .. This is why I love her ..

    ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่รับได้

    Thank you for understanding. Thank you received.

    ฉันซาบซึ้งเหลือเกิน และฉันขอให้จำเอาไว้

    I appreciate unconscionable. And I have to remember to remove it.

    จะรักเธอจนหมดใจ ถ้าหากอยากจะฝากชีวิตไว้กับใคร

    Will love her and lose heart. If you want to leave it with one life.

    ไม่มีคนๆ ไหนนอกจากเธอ..

    No one other than what she ..

    รู้ใช่ไหมว่ารักเธอมาก และก็แน่ใจว่าเป็นเธอ ใช่คนนี้

    Yes, please know that she loves most. And also ensure that this is her yes.

    รู้ใช่ไหมเป็นเพราะอะไร เธอมีดีอยู่ที่ตรงไหน

    Yes, some know what it is. She is good at where.

    จึงได้รักเธอมากอย่างนี้…

    She has loved this much …

    Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 18, 2010 | Reply

    • Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 18, 2010 | Reply

  33. Song Name

    My inferiority complex.

    Artist

    ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์

    Album

    ป้าง (New Single)

    Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 18, 2010 | Reply

  34. พิกุลทอง
    กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้วยังมีแม่หม้ายขี้โอ่คนหนึ่ง นอกจากจะไม่สวยแล้วยังปากร้าย ระรานชาวบ้านเป็นนิจสิน ไม่มีใครอยากจะคบหรือพูดด้วย
    หญิงขี้เหร่คนนี้มีลูกสาว 2 คน ที่แปลกก็คือ ลูกสาวคนโตที่ชื่อ มะลิ มีรูปร่างหน้าตาและนิสัยเหมือนแม่ ส่วนคนน้องชื่อ พิกุล หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนแม่เลย กลับไปเหมือนพ่อที่ตายไปนานแล้ว หน้าตาหมดจด รูปร่างกริยาท่าทางเรียบร้อยสำรวมดี จะพูดจาก็ไพเราะ ชาวบ้านไม่ชอบแม่หม้ายและมะลิ กลับไม่รังเกียจพิกุล ไปที่ไหนใครๆ ก็ทักทาย พูดคุยด้วยความเอ็นดูและเมตตา
    แม่หม้ายกลับไม่รักลูกคนเล็ก รักมะลิลูกสาวคนโตมาก เพราะมีนิสัยเหมือนกัน ด้วยความรักแกจึงไม่ค่อยจะใช้งาน หากจะใช้บ้างก็มีแต่งานเบาๆ งานหนักในบ้านจึงตกเป็นหน้าที่ของพิกุล
    พิกุลต้องตักน้ำ ตำข้าว รดน้ำผัก เย็นวันหนึ่งพิกุลออกไปตักน้ำที่ลำห้วย ขณะที่แบกหม้อน้ำมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งพิงต้นไม้ ด้วยความเหนื่อย เมื่อหญิงแก่ขอน้ำกินพิกุลก็เดินเข้าไปหา แล้วก็ส่งหม้อน้ำให้ด้วยความเต็มใจ เมื่อหญิงชรารับน้ำไปดื่มจนอิ่ม แล้วก็พูดขึ้นว่า
    “ยายขอบใจหลาน จงเอาหม้อน้ำของหลานกลับไป” เมื่อรับหม้อน้ำ ยายแก่จึงกล่าวต่อไปว่า “หลานเอ๋ย เจ้าช่างเป็นคนใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พูดจาก็ไพเราะ มาเข้ามาใกล้ๆ ยาย ยายจะให้รางวัล”
    ความจริงหญิงชรานั้นก็คือ นางไม้ ผู้มีฤทธิ์แปลงตัวมา แต่พิกุลไม่รู้จัก เมื่อพิกุลชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ หญิงชราแกก็ให้พรว่า
    “ตั้งแต่นี้ไป เมื่อหลานพูดคำไหน จะมีดอกพิกุลทองร่วงมาจากปากหลาน คำละดอกเสมอไป” พอให้พรเสร็จร่างของหญิงชราก็ค่อยๆ เลือนหายไป พิกุลทองก้มลงกราบที่โคนไม้ แล้วก็แบกหม้อน้ำกลับบ้าน
    พอถึงบ้านพิกุลก็ถูกแม่ดุด่า “เอ็งไปตักน้ำแค่นี้ทำไมถึงได้นานนัก คงจะไปไถลเลี่ยงงานมาน่ะซี”
    พิกุลจะพยายามจะเล่าความจริงให้แม่ฟัง และขอโทษในความล่าช้า พอพิกุลพูดคำว่า “ขอโทษจ๊ะแม่” ขาดคำดอกพิกุลก็ร่วงมาจากปากหล่นลงยังพื้นเรือน หญิงหม้ายพอเห็นเช่นนั้นก็ตาลุกร้องว่า
    “นี่มันดอกพิกุลทองนี่ ที่ร่วงมาจากปากของเจ้า ลูกของแม่ไปได้มาจากไหน” เป็นครั้งแรกที่แม่เรียกพิกุลว่า “ลูกของแม่”
    พิกุลเป็นเด็กซื่อ จึงเล่าความจริงให้แม่ฟังทุกอย่าง ขณะเล่าก็มีดอกพิกุลล่วงลงมาทุกคำไป แม่ก็เอามือรองบ้าง กวาดเก็บจากพื้นบ้าง เก็บไว้เป็นของตัวทั้งหมด เมื่อพิกุลเล่าเรื่องทั้งหมดจบลง แล้วแกก็พูดว่า
    “เอาล่ะตั้งแต่นี้ต่อไป เรานับวันจะมั่งมีเทียมหน้าคนอื่นแล้ว แม่จะไม่ให้ลูกของแม่ทำอะไรอีกเลย วันๆ หนึ่งขอให้นั่งคุยกับแม่เท่านั้นก็พอแล้ว”
    ตั้งแต่นั้นต่อมา พิกุลทองก็นั่งอยู่แต่ในห้องกับแม่ ที่ตั้งหน้าตั้งตาจะชวนคุย ถามโน่นถามนี่ เพื่อให้พิกุลตอบแกโดยไม่หยุดหย่อน ทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อจะให้ได้พิกุลทองให้มากที่สุด แม้ได้พิกุลทองวันละมากมาย แกก็ยังไม่พอใจ อยากได้อีกมากๆ พิกุลต้องนั่งพูดจนเหนื่อย นานเข้าถ้าพิกุลหยุดพูด แกก็จะด่าว่าและถึงตบตี พิกุลจะวิงวอนขอพักผ่อนบ้าง เขาก็ไม่ยอม
    ในที่สุดเมื่อไม่ได้กินได้นอน พิกุลก็อ่อนเพลียเสียงแห้งลงๆ เมื่อไม่มีเสียงออกมาจากลำคอ ดอกพิกุลทองก็ไม่ร่วง แม่หม้ายผู้ละโมภ จึงคิดได้ว่า “เราก็มีลูกสาวอีกคนหนึ่ง มะลิอย่างไร เราต้องใช้ให้มะลิไปตักน้ำบ้าง จะได้พบยายแก่มาขอน้ำกิน แล้วมะลิก็จะได้รับพรอย่างพิกุลเป็นแน่ สบายละเรา”
    คิดดีแล้วหญิงหม้ายก็ใช้มะลิออกไปตักน้ำ สั่งลูกสาวคนโตว่า” ถ้าเอ็งพบยายแก่กลางทาง แกจะขอน้ำกิน รีบให้แกกินนะลูก แกจะได้ให้รางวัล”
    มะลิฟังคำแม่แล้ว ก็แบกหม้อตักน้ำไปที่ลำห้วย เนื่อจากเป็นลูกรักของแม่ เกิดมาไม่เคยทำงานหนัก มะลิจึงอารมณ์เสีย เดินบ่นหน้างอไปตลอดทาง พอได้น้ำแล้วก็แบกน้ำที่พร่องหม้อกลับบ้าน ผ่านต้นไม้ใหญ่ แต่แทนที่จะได้พบหญิงชรา เหมือนพิกุลผู้น้อง กลับพบสาวสวยคนหนึ่ง แต่งตัวด้วยแพรพรรณงดงาม มีเครื่องประดับที่สูงค่า ยืนอยู่ใต้ต้นไม้เดียวกันนั้น และร้องขอน้ำกินจากมะลิ
    ความจริงหญิงสาวนั้นคือ นางไม้ คนเดิมปลอมตัวมานั่นเอง มะลิเห็นไม่ใช่หญิงชราตรงตามที่แม่สั่ง ประกอบทั้งมะลิมักจะไม่ชอบหน้าผู้หญิง ที่สวยกว่าตัวอยู่แล้ว จึงตอบสบัดๆ ปราศจากหางเสียงว่า
    “เออ! อะไรกันคนสวย น้ำนี้ฉันลงแรงตักมาแสนเหนื่อย แกจะเล่นมาขอกินเฉยๆ ไม่มีทางหรอกสาวๆ แข็งแรงอย่างนี้ อยากกินก็เดินไปกินเองที่ลำห้วยโน่นแน่ะ” ว่าแล้วมะลิก็รีบสาวเท้า ผละหนีกลับบ้านอย่างไม่เอื้อเฟื้อ หญิงสาวนั้นจึงเดินตามและยึดตัวมะลิไว้ พูดว่า
    “ช่างไม่เอื้อเฟื้อเสียเลยนะ แล้วยังไม่สุภาพด้วย เอาเถอะฉันจะให้พรแก ให้สมกับความปากร้ายของแก ตั้งแต่นี้ต่อไป ทุกคำที่แกพูดจะมีไส้เดือน กิ้งกือ หล่นลงมาจากปากเสมอไป” พูดเท่านั้นหญิงสาวก็หายวับไปกับตา
    มะลิตกใจมาก วิ่งกลับมาถึงบ้าน พอเห็นหน้าแม่ก็ร้องว่า “โอ๊ย! แม่” ยังไม่ทันจะพูดต่อไป ก็มีไส้เดือนกิ้งกือร่วงออกมาจากปาก เมื่อมะลิเล่าเรื่องของตัวเองให้แม่ฟัง พูดคำใดก็มีไส้เดือน แมงป่อง ตะขาบ กิ้งกือ ร่วงลงมาจากปาก พอเล่าเสร็จปรากฎว่าสัตว์เหล่านั้น เลื้อยคลานเต็มบ้านไปหมด
    แม่หม้ายเห็นเช่นนั้น กลับโกรธลูกสาวคนเล็ก ว่ามาเล่าเรื่องเท็จให้ฟัง ฉวยไม้ไล่ตีจนพิกุลหนีออกจากบ้านเข้าป่าไป นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กลางป่า เพราะหมดปัญญาจะเดินทางต่อไป
    ขณะนั้นมีเจ้าชายหนุ่มขับม้าผ่านมาเห็นเข้า จึงหยุดม้าถามพิกุล พิกุลก็เล่าว่า ถูกแม่ด่าตีขับไล่ออกจากบ้าน ขณะที่เล่าก็มีดอกพิกุลทองร่วงจากปาก เจ้าชายเห็นเช่นนั้น ประหลาดใจมากลงจากหลังม้า เข้าไปทรงเก็บดอกพิกุลทองขึ้นมาพิจารณา แล้วเปล่งสุรเสียง ด้วยความประหลาดพระทัย
    เอ๊ะ! แม่นาง พิกุลเหล่านี้เป็นทองแท้ๆ นี่ ไหนลองเล่าเรื่องให้ฉันฟังให้ตลอดซิ”
    พิกุลจึงเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบถวาย เจ้าชายทรงฟังแล้วก็ตบพระหัตถ์ “งั้นก็เธอนี่เองน่ะซี ที่เป็นเนื้อคู่ของฉัน” ว่าแล้วเจ้าชายก็ตรัสเล่าให้พิกุลฟังว่า
    “ที่ฉันขับม้าออกมาในป่าวันนี้ เพราะเมื่อคืนฉันฝันประหลาดว่า ตัวฉันเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พบหญิงชราคนหนึ่งร้องเรียกฉันให้หยุด แล้วบอกให้ฉันขับม้าเข้ามาในป่าวันนี้ จะได้พบเนื้อคู่เป็นหญิง ที่ทุกคำที่กล่าวจะมีดอกพิกุลทองร่วง ตามมาคำละดอก คำบอกเล่าของหญิงชราได้กลายเป็นความจริงแล้ว แต่งงานกับฉันเถิด ฉันจะพาไปอยู่ในวัง”
    พิกุลจึงทูลตอบว่า “เป็นพระคุณ เพราะหม่อมฉันก็หมดหนทางไป แต่เราก็ควรพากันไปที่ต้นไม้ใหญ่ แม้ไม่พบหญิงชรา เราก็จะกราบโคนไม้ระลึกถึงพระคุณของแก”
    ว่าแล้ว เจ้าชายก็ประคองพิกุลให้ขึ้นนั่งซ้อนบนหลังม้า พากันไปกราบไหว้ต้นไม้ใหญ่ อันเป็นที่สิงสถิตย์ของนางไม้ผู้มีพระคุณ เพื่อขอพรให้ประสบแต่ความสุขสำราญต่อไป
    จบแล้ว.

    Pigoonthong.

    One time. Long ago to have a widow foppish. Not only beautiful but also foul-mouthed. Villagers frequently outrageous. Nobody wants to talk with the union or.
    Ugly woman who has 2 daughters who are new to the eldest daughters name is jasmine appearance and habits as the parent. The minor name of Pigoon look like mother and habits not all. Back to the same father died quite handsome shape reactions successfully collect good gesture. They will speak musically. Villagers do not like widow and Mali. Pigoon go back not hate anyone greet and talk with loving mercy.
    Back widow who does not love small ball. Mali eldest daughter much love. It has the same habits. With love, Gary is seldom used. If there is some gravy. Heavy duty, went home, it Pigoon.
    Pigoon dip up water, pound rice, water vegetables, one evening Pigoon dip up water from creek. While carrying water comes from a large tree. Saw one old woman sitting against the tree. With fatigue. When women ask for drinking water would go into a Pigoon. Then sent to a radiator willing. When women get old and full of water to drink. Then speak to that.
    “Old nephew thanks. Children take the water back to “When receiving water. Witch is continued, “O thou nephew is a very kind person. Charity. Speak it musically. To come near to providing award-old grandmother. ”
    Truth is, the old woman who has her wood effect to the conversion. Pigoon, but do not know. When the Pigoon lean out next closer. Hag that you would wish.
    “From now on. When Children speak the word which. Pigoon will not fall from the golden mouth grandchildren. Each word not always “ready enough to finish the draft of the hag would gradually melt gold fell down, Pigoon pay the base wood. Then carry water home.
    Pigoon was enough to home mothers nag. “You go to draw water just why has this long. Would be to avoid the slide to why “.
    Pigoon will try to tell the truth to the parent listening. And sorry for the delay. Pigoon speak enough words. “Sorry parent” not lose a Pigoon fall from the mouths drop down to floor. Widow see as it claims that with eyes widen.
    “This is not Pigoonthong here. That fall from your mouth. Child’s mother to come from? “The first Pigoon that parent called” child mothers “.
    Pigoon is innocent children. Truth to tell, so listen to every parent. While Liu is not Pigoon to slip down every word. What parent would take second fiddle. Swab collected from the floor some. Keep the entire body. When the Pigoon story all finished. Then you would say.
    “Okay, now follow. We count on the same rich people then. Mother to child’s mother will not do another day for any one to stay with the mother only is enough “.
    Since the later. Pigoon, but gold would stay in room with parent. The call will be absorbed talk. Ask those questions here. Pigoon reply by incessant. Day night. Order to have the most gold Pigoon. Despite numerous Pigoon gold per day. you is still not satisfied. Want to have any more. Pigoon to sit and talk fatigue. Time to stop talking if the Pigoon. you will rap the slap and hit. Pigoon will pray he does not agree to relax.
    Finally, when I was sleep eating. Pigoon is dry, tired voice down. When no sound from the neck. Pigoon is not golden flowers fall. Widow who is thought by Motionwear pharmacist that “we have another daughter Mali to how we need to get some water. To see the witch for water consumption. Mali was also blessed by a Pigoon as well be us. ”
    Women are a good idea to use Mali to scoop out water. Order eldest daughter that “if you find trot midway you will soon have potable water to eat. you will be awarded “.
    Listen to your mother and Mali. They carry the pot to scoop water creek. Filtration microsurgery is the love child of the parent. There has not worked hard. Mali is upset. Churlish to complain and walk all the way. Moderately water, then carried the dwindling pot of water back home. Through a large tree. But instead found old women. Pigoon like a brother. To find beautiful one. Dress with beautiful clothing. A high value jewelry. Stand under the same tree. Potable water and request from Mali.
    The young woman is her real wood pose a building-block intact. Mali hag not see exactly as the parent command. Operators often do not like the Mali women face. Beautiful than the already BAD Inc. The answer is that without the ring.
    “Errrr! What beautiful people my water this effort to get very tired. you will play for the mere consumption. The young no way. This very strong. Want to eat it and walk to eat those creek own”and that Mali would soon march. Run away home without generous. Young women that are walking by and Mali have taken the blame.
    “Not full of generous. But also with profanity. Well I wish you. The equation with the foul-mouthed of you. From this follow. Every word that you will be speaking worm millipede down from mouth to always “speak only young women would disappear to the eye.
    Mali stay very uptight back home. Enough to see the parent page it claims that “whew! Mother “still unable to talk to. Worm millipede is falling from the mouth. When Mali’s own story to the parent listening. What is spoken word scorpion centipede millipede worm fell from the mouth. Paul then completed appear that those animals. Reptile house to be full.
    Widow saw that. Back angry midget daughter. That a false story to hear. Amgale take shots and Pigoon from home to escape to the forest. Sat blubbering in the central jungle. It will travel to one’s wit.
    While you are driving young men last seen in horses. Pigoon are asked to stop riding. Pigoon would explain that. Parent abuse is hit driven from home. The story is not Pigoonthong flower falling from the mouth. Prince saw that. Amazed dismount. He collected Pigoonthong flower was not considered. Then emit voice of authority. With strange mind.
    Eh! Her mother is a golden pigoon, these simple storytelling is what I try to listen to any Sponsors. ”
    Pigoon is story from start to finish, offerings. Prince has been hearing it slap hand. “Otherwise why would she treasured Eastern. A life mate my “Prince also said that it was then to hear that Pigoon.
    “I drive a horse out in the wild today. Because last night I dream that strange. I walk through the large trees from one. Hag found one called me to stop. And let me drive the horse into the forest today. Life mate to find a female. That every word that is not Pigoon will fall under the terms of Pigoonthong flower hearsay of old women has become a reality. Marry me. I will bring to the palace “.
    Pigoon toolbar answer is that “it is grace because I have no way out. But we should take together to the big tree. Although women do not find old. We will inform the base commemorates the kindness of you “.
    That was Prince help Pigoon to prop it up on a horseback ride overlap. Take another large tree to pray. Singapore firmly established her as the clubs who have grace. To cry, but to experience bliss follow.
    The end.

    Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 18, 2010 | Reply

  35. นิทานเรื่อง ความสง่างามของต้นโอ็กเก่า
    โอ๊ก กล่าว กก ที่ ขยาย ตัว แม่น้ำ: “มัน ไม่ แปลก ใจ ว่า คุณ ทำ เช่น เสียง สวด เศร้า สำหรับ คุณ จึง อ่อนแอ ที่ นก กระจิบ น้อย เป็น ภาระ ให้ กับ คุณ และ ลมโชยเบาๆ ดู คล้าย พายุ – ลม. ตอน นี้ มอง ฉัน พายุ ไม่ ได้ เคย สามารถ โดนหัว ฉัน. คุณ จะ ปลอดภัย มาก หาก คุณ แผ่ขยายใกล้ ข้าง ตัว ของ ฉัน เพื่อ ให้ ฉัน พักพิง คุณ จาก ลม ที่ ตอน นี้ เล่น กับ ใบ ของ ฉัน. ”
    “ไม่ ต้อง กังวล กับ ฉัน” กก กล่าว ว่า “ผม มี เหตุผล น้อย ไปที่ กลัว ลม มากกว่า คุณ. ฉัน ก้มตัว ฉัน แต่ ฉัน ไม่ เคย หยุด. ผู้ ที่หัวเราะที่หลัง, หัวเราะ ดี ที่สุด!
    กลางคืน มี ที่ มา วาตภัยน่า กลัว. โอ๊ก ยืน ลุก. กกก้มตัวเองก่อนเสียงอึกทึก. ลม ขยาย ตัวมากขึ้น และ ถอนราก โอ๊ก ภูมิใจ, โยน มัน บน พื้น.
    เมื่อตอน เช้า มามีกก ยืนอ้อนแอ้น, อร่าม กับน้ำค้างหยด และ ลมโชย ไหว เบา
    BAUCIS และ PHILEMON
    แสดง ดัดแปลง มา จาก HP MASKEL ของ ตำนาน กรีก
    บน ผา ลาด ของ ภูเขา Phrygian มี ที่อาศัยที่หนึ่ง คู่ ผัวเมีย ใจบุญ ชื่อ Baucis และ Philemon. พวก เขา มี ชีวิต ทั้งหมดอาศัย ใน กระท่อม เล็ก ๆ ของ กิ่งไม้, มุง หลังคา ด้วย ฟาง และ เป็นที่พึงพอใจ แม้ พวก เขา ยากจน.
    เช่น นี้ คู่ ผัวเมียที่น่าสรรเสริญ นั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นที่อบอ่นข้างเฅาไฟ หนึ่งยาม เย็น ใน ปลายฤดู ใบไม้ ร่วง สองคนแปลกหน้า มา และ ขอ ที่พัก อาศัย สำหรับ กลางคืน. พวก เขา ก้ม ตัว เพื่อ เข้า สู่ ทาง เข้า ประตู อย่างนอบน้อม ซึ่ง คน แก่ ต้อนรับ พวก เขา อย่าง เต็มที่ และ เชื่อเชิญพวก เขา แขนขาของพวกเขาเหนื่อยล้า พักบนม้านั่งยาว
    ใน ขณะ เดียวกัน Baucis กวนถ่านที่ยังไม่มอด ที่ เป่า ลง ใน เปลว เพลิง ที่ มี ใบ แห้ง และ กอง ใน มัดฟืน ที่ เคี่ยว สตู ว์ โดยใช้ หม้อ. ไป ต้ม เคี่ยว โดยใช้ หม้อ. ห้อย จาก คาน ดำ คล้ำ เป็น ด้าน ไหม้ ของ เบคอน. Philemon ตัด หมู ชิ้น บาง ๆ เพื่อ อบ และ ขณะ ที่ แขก ของ เขา ก่อไฟด้วย ตัว เอง กับ ล้าง ท่อ น้ำ ที่ บ้านนอก เขา รวบรวม สมุนไพร จาก สวนหย่อมของเขา. แล้ว หญิง แก่ มือ ของ เธอ สั่น ด้วย วัยชรา วาง ผ้า และ จัดโต๊ะ.
    มัน เป็น อาหาร ประหยัด แต่ ที่เดินทาง หิว ดี ได้ รสชาติ. หลักสูตร แรก คือ ไข่เจียว นม ข้น และ ไข่ เครื่องปรุง กับหัวไชเท้าและ ทำ หน้า ใน จายาวทำ ด้วย ไม้ โอ๊ก หยาบ. ถ้วย ของ beechwood เปิด ได้ เต็ม ไป ด้วย ไวน์ homemade จากเหยือก ดิน. หลักสูตร ที่ สอง ประกอบด้วย มะเดื่อ แห้ง และ ผลพลัม, แอ ป เปิ้ ล หอม ฉุย และ องุ่น กับ ชิ้น ส่วน ของ รังผึ้ง ขาวที่ล้างแล้ว. สิ่ง ที่ ทำ อาหาร มาก ขึ้น เพื่อ ขอบคุณ แขก ผู้ มี วิญญาณ มากมาย ที่ ถูก เสนอ. ครอบครัว ของ พวก เขา ให้ สิ่ง ที่ พวก เขา ได้ ไม่ อั้น หรือ ตระหนี่.
    แต่ สิ่ง ที่ เกิด ขึ้น ทั้งหมด ใน ครั้ง เดียว ที่ ได้ ถูก ทำให้ ตกใจ และ ประหลาด ใจ Baucis และ Philemon. พวก เขา รินไวน์ สำหรับ แขก ของ พวก เขา และ แท้จริงเวลา เหยือก เติมจนเต็ม อีก ครั้ง .
    คู่ ผัวเมีย รู้ เกี่ยวกับ แขก ของ พวก เขา ไม่ เพียง; แน่นอน พวก เขา ไม่มี อื่น ๆ กว่า ดาว พฤหัสบดี และ ดาว พุธ มา ลง เพื่อ แผ่นดิน ใน แฝง ของ การ เดินทางที่ ไม่ ดี. การ ขาย หน้า บันเทิง ต่ำต้อย ของ พวก เขา Philemon รีบ ออก ล่า สัตว์ เพื่อ ให้ คน โง่ เท่านั้น เขา เจตนา จะ ฆ่า และ อบ มัน. แต่ แขก เขา ยับยั้ง เขา ว่า: —
    “ใน รูป มนุษย์ เรา ได้ ลง มา และ ที่ ร้อย บ้าน ขอ พำนัก และ ที่ เหลือ. สำหรับ คำ ตอบ หนึ่ง ร้อย ประตู ถูก ปิด และ ล็อก พวก เรา. คุณ ตัวลำพัง กับความจน ทั้งหมด ได้ ยินดีรับ เรา และ ให้ เรา ดี ที่สุด ของ คุณ. ขณะ นี้ เป็น ที่ เรา จะ ลงโทษ ผู้ ฝ่าฝืน เหล่า นี้ กับผู้ ปฏิบัติ กับคน แปลก หน้า และ หยาบคาย แต่ ท่าน ทั้ง สอง จะ ได้ งด เว้น. เพียง ออก จาก กระท่อม ของ คุณ และ ปฏิบัติ ตาม เรา ที่ ยอดเขา.
    เพื่อ ว่า, ดาว พฤหัสบดี และ ดาว พุธ เป็น ผู้นำ ทาง และ ทั้ง สอง กลุ่ม ชน เก่า ขัดขวาง หลังจาก พวก เขา. ปัจจุบัน พวก เขา ถึง ด้าน บน ของ ภูเขา และ Baucis และ Philemon เห็น ทั้งหมด รอบ ประเทศ กับ หมู่บ้าน และ ผู้ คน จม ลง ใน บึง หนึ่ง ขณะ ที่ กระท่อม ของ ตนเอง เพียง อย่าง เดียว ออกจากอย่างมั่นคง.
    และ ขณะ ที่ พวก เขา จ้องมอง, กระท่อม ของ พวก เขา ถูก เปลี่ยน เป็น วัด สี ขาว. ทาง เข้า ประตู เป็น ระเบียง มี เสาหินอ่อน. มุง ขยาย ตัว เป็น หลังคากระเบื้อง ทอง. สวน เล็ก ๆ เกี่ยว กับ บ้าน ของ พวก เขา กลาย เป็น สวน.
    จาก นั้น ดาว พฤหัสบดี พิจารณา Baucis และ Philemon ด้วย ความคิดที่เมตตา กล่าว ว่า “บอก ฉัน ผู้เฒ่าแสนดีและ คุณ ภรรยา ที่ ดี สิ่ง ที่ เรา อาจ จะ ตอบแทน การ ต้อนรับ ของ คุณ?
    Philemon กระซิบกระซาบ ใน ขณะ ที่ มี Baucis และเธอผงกศีรษะ ยินยอม. “เรา ต้องการ” เขา กล่าว “เป็น บ่าว ของ คุณ และ จะ ดูแล วัด นี้. หนึ่ง สนับสนุน อื่น ๆ ที่ เรา จะ ขอ. จาก วัย ฉัน ได้ รัก Baucis เท่านั้น และ เธอ อาศัย อยู่ เฉพาะกับ ฉัน. ให้ ชั่วโมง เหมือน กัน เวลา เรา ทั้ง สอง ห่าง กัน. ให้ ฉัน ไม่ เคย เห็น ความ ตาย ของ ภรรยา ของ ฉัน และ ไม่ ปล่อย ให้ เธอ ประสบ ความ ทุกข์ ยาก ทุกข์ ตาย ของ ฉัน. ”
    ดาว พฤหัสบดี และ ดาว พุธ, ยินดี กับ คำขอ นี้ ได้ รับ ทั้ง เต็มใจ และ มอบของขวัญให้ Baucis และ Philemon กับ วัย และ เรี่ยวแรง เท่า กัน. พระเจ้า นั้น ได้หาย ไป จาก สายตา ของ พวก เขา แต่ ตราบ ชีวิต สุดท้าย Baucis และ Philemon เป็น ผู้ ปกครอง ของ วัด สี ขาว ที่ ครั้ง หนึ่ง เคย เป็น บ้าน.
    และ เมื่อ ครั้ง ความแก่ มายัง พวก เขา พวก เขา ยืน หนึ่ง วัน หน้า ระเบียง ศักดิ์สิทธิ์ และ Baucis, เปลี่ยน เธอ จ้อง มอง เมื่อ สามี ของ นาง เห็น เขา ช้า เปลี่ยน เป็น ไม้ โอ๊ก. และ Philemon เนื่องจาก เขา รู้สึก ว่า ตัว เอง ไป ฝัง ดิน ให้ เห็น Baucis ใน เวลา เดียวกัน เปลี่ยน เป็น ต้นไม้ ดอก ใบเหลือง.
    และ เป็น ใบหน้า ของ พวก เขา หาย ไป หลัง ใบ สี เขียว ,แต่ละเสียงร้อง อื่น ๆ “ลาก่อนที่ รัก!” และ อีก “ที่รัก, ลาก่อน!” และ รูปมนุษย์ ของ พวก เขา เปลี่ยน ต้นไม้ และ กิ่งก้านสาขา.
    และยังคง ถ้า คุณ ไป ที่ จุดนั้น คุณ อาจ เห็น โอ๊ก และ ไม้ ต้นไม้ ดอก เหลือง ที่ มี กิ่งก้านสาขา พันกัน.

    (จากเรื่องดีๆ สำหรับ วัน หยุด โดย Frances Jenkins Olcott)

    Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 20, 2010 | Reply

  36. แมลงวันและ กระถางน้ำผึ้ง

    จำนวน แมลงวัน ถูก ดึงดูด ที่ ขวด น้ำผึ้ง ที่ เคยถูก
    พลิก กลับ ใน ห้อง แม่บ้าน ของ และ การวาง เท้า ของ พวกมัน ใน นั้น,
    กิน อย่าง ตะกละ. เท้า ของ พวก มันเปื้อน
    น้ำผึ้ง ที่ พวกมัน ไม่ สามารถ ใช้ ปีกของพวกมัน และ ไม่สามารถ ปลดปล่อย
    ตัว เอง และ มี อาการหอบ. เช่น เดียว กัน พวกมัน ตาย,
    พวก เขา กล่าว ว่า ” ที่เราเป็นสัตว์ โง่ เพราะ
    ความ สุข เล็ก ๆ ที่ เรา ได้ ทำลาย ตัว เราเอง.. ”

    ความพอใจ ซื้อ ด้วย ความปวด, ความเจ็บ.

    Comment by ธนาวุฒิ ธรรมเนียมใหม่ | February 20, 2010 | Reply

  37. สอนคำว่ารัก – bebe`
    Teach me to know love – bebe`

    รักมันเป็นยังไงก็อยากรู้และเข้าใจ ก็อยากถาม
    What’s love? I want to know and understand. I want to ask

    จะมีไหมใครช่วยมาบอก
    Have somebody to tell me?

    ใช้ชีวิตไปวันวัน ฝันก็ฝันเพียงลำพัง ก็ตัวฉันจะเหงาไปถึงเมื่อไหร่
    Day after day I live and dream alone. “I’m”. How long I lonely?

    *แต่พอพบเธอก็ทำให้ใจฉันสั่น หวังให้เธอช่วยกันหน่อยได้ไหม
    *When I met you. You make my heart shake. I hope you.
    Can you help me? Please.

    **มาอยู่ในใจฉันที ก็อยู่คนเดียวมาหลายปี ในใจถ้าเราต่างก็ไม่มีใคร
    **Stay in my heart. I stay alone many year. In our hearts haven’t somebody.

    ช่วยมาเป็นแฟนฉันที ตกลงปลงใจกันดูซักที สอนฉันให้รู้จักคำว่ารักหน่อย
    You help me by you are my boyfriend. You and me OK about it.
    Teach me to know love

    (solo)

    ไม่รู้จะทำอะไรใจมันว่างจนเกินไป
    I don’t know to do everything. My heart is too free.

    จะไปไหน ไม่มีนิ้วใครไว้คอยเกี่ยว
    When I go anywhere. I haven’t finger for catch.

    ฉันก็เหมือนตัวคนเดียว เห็นเธอนั้นก็ยังเปลี่ยว
    I’m like alone. I see you alone too.

    อยู่คนเดียวก็เลยชวนมาเกี่ยวหัวใจ
    I’m alone. I will invite you to catch heart.

    You make me feel good.
    Help me by stay in my heart.

    (Rap)

    All right!
    Hi wanna baby want to get now and you make me feel like away your cram. So what your very want and very do want for you? Look at me you’re only want (2 Rap)

    (*)(**)

    ให้ฉันได้ลองเอ่ยคำว่ารักหน่อย
    For I try to say love.

    Comment by Taiki Momiki | February 21, 2010 | Reply

  38. ปัญญาจากหมาขี้เรื้อน

    ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..

    บัณฑิตใหม่หมาดจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้ เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับ พระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดี มีแต่ความสุขสบายเมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

    แต่ก็นั่นแหละกว่าจะ’นิ่ง’ ก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะ พระใหม่มีนิสัยชอบจับผิดและชอบอวดรู้ ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ

    วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่า ไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่า ล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี

    ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไปประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมือง นอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้

    โอ้ชีวิต!ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่า ตัวเองเหนือกว่าทุกประตู นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ

    อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

    เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้า ท่าล้าสมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

    อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงาน อย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ

    หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทราด้วย ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่าน ให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน

    อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย ดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

    “เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อนคันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหน มันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจหาว่า แต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี”

    “คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้ง วันเจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้น หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก”

    พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว

    ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

    นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง

    แม้เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบ ครัว ท่านก็ยังไม่ยอมสึก “อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรค จนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา”
    โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า “หมาขี้เรื้อน” ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่

    Wisdom from dusty dog

    Son’s the famine businessman have just oversea graduated. He have not done any works exactly then his mum ask him to enter the priesthood so new pundit have to be done at massive temple in Bangkok. He has sent to stay with the strict monk at East–North. The high education and the noble family person, young monk live in the luxurious up bringing until he has adapted that took time for a while.
    That why others monk are fed up his behavior which was the found fault and so self confidence habit, he never heard any sound from each others.
    At first day when he came, the local had been blamed. For example the low knowledge doesn’t like him. When he did an activity in the morning, he acted; he cannot eat any food which is given from local people. At that place did not use electric light but they used gasoline lamp instead. He complained too much about that.
    At early evening they have to observe religious practice thus he dame to the sub abbot about that it took him so long time and made him got beriberi. When cleaned rest room duty has turned on him, he did it not well because he did not attend his work, he once did once murmur that about “why I have to do this because I got a post education, master degree from offshore and why I have to work with someone I don’t know”
    Oh…life! Luxuriance, Not doing nothing that made him was not pleased. He thinks he has more a eulogized ancestry and more high education than others in this temple furthermore when he is looked his appearance is so radiant and pure skin that make villagers quite believe in him than any priest. After he thought about himself, he always smiled then when he came back to his chamber he masked a cross on the calendar to know how long he left here by his heart.
    For long a while he noticed the minister why he does not too much speak also he took a plenty of time to come to teach per times. Every day he seem not did anything beside he swept brown leafs, kept garbage, laundered his clothes, “why he does not use anyone to do instead” and he gave a sub abbot to monitor a temple.
    So that by the proud of his anxious knowledge, he offered many things that he guesses these were not fine, out of date. Including lamps have to be replaced by electric light, he offered. Due to today is globalizing world and they don’t not have to do like old people that can be damn.
    One other comment disadvantage of several temple. New monk offer to abbot have relation to other monk very more. Teach up and up and suggest business man should not work.
    such as washing by myself. But should to spread the power and assign to other people instead.
    That evening Buddhist day of 15th. Abbot to observe religious practice in the natural church middle of sand yard. He never forget to read the suggestion from new monk to several novice. But he don’t tell who is the writer.
    After he finished. He ‘s smile and put up the microphone and point to dusty dog that sleep under the chair near the asok tree to novice. “Do you see that d\usty dog?. It has leprosy and itch around body. I saw it run busily all day. It run to stay here and move other place can’t to long stay because it itch. But do you know? Where is the dog slept. It swear that place your mind. Each place not well and can’t make the itch to be disappear. Those place is very dirty.”
    When it think like that so it run to find the place that can make it feel better ,but it can’t. It’s run all the time the silly dog don’t know. The cause of itch not begin from the place ,but it’s from the illness in itself
    Said finish. Abbot put off microphone to show. This time for observe religious practice in the evening.

    Comment by ภานุรักษ์ สีสวย 51501030047-0 A.E. 2-1 | February 22, 2010 | Reply

  39. ปัญญาจากหมาขี้เรื้อน

    ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..

    บัณฑิตใหม่หมาดจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้ เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับ พระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดี มีแต่ความสุขสบายเมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน

    แต่ก็นั่นแหละกว่าจะ’นิ่ง’ ก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะ พระใหม่มีนิสัยชอบจับผิดและชอบอวดรู้ ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ

    วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่า ไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่า ล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี

    ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไปประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมือง นอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้

    โอ้ชีวิต!ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่า ตัวเองเหนือกว่าทุกประตู นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ

    อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

    เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้า ท่าล้าสมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

    อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงาน อย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ

    หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทราด้วย ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่าน ให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน

    อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย ดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

    “เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อนคันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหน มันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจหาว่า แต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี”

    “คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้ง วันเจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้น หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก”

    พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว

    ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

    นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง

    แม้เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบ ครัว ท่านก็ยังไม่ยอมสึก “อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรค จนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา”
    โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า “หมาขี้เรื้อน” ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่

    Wisdom from dusty dog

    Son’s the famine businessman have just oversea graduated. He have not done any works exactly then his mum ask him to enter the priesthood so new pundit have to be done at massive temple in Bangkok. He has sent to stay with the strict monk at East–North. The high education and the noble family person, young monk live in the luxurious up bringing until he has adapted that took time for a while.
    That why others monk are fed up his behavior which was the found fault and so self confidence habit, he never heard any sound from each others.
    At first day when he came, the local had been blamed. For example the low knowledge doesn’t like him. When he did an activity in the morning, he acted; he cannot eat any food which is given from local people. At that place did not use electric light but they used gasoline lamp instead. He complained too much about that.
    At early evening they have to observe religious practice thus he dame to the sub abbot about that it took him so long time and made him got beriberi. When cleaned rest room duty has turned on him, he did it not well because he did not attend his work, he once did once murmur that about “why I have to do this because I got a post education, master degree from offshore and why I have to work with someone I don’t know”
    Oh…life! Luxuriance, Not doing nothing that made him was not pleased. He thinks he has more a eulogized ancestry and more high education than others in this temple furthermore when he is looked his appearance is so radiant and pure skin that make villagers quite believe in him than any priest. After he thought about himself, he always smiled then when he came back to his chamber he masked a cross on the calendar to know how long he left here by his heart.
    For long a while he noticed the minister why he does not too much speak also he took a plenty of time to come to teach per times. Every day he seem not did anything beside he swept brown leafs, kept garbage, laundered his clothes, “why he does not use anyone to do instead” and he gave a sub abbot to monitor a temple.
    So that by the proud of his anxious knowledge, he offered many things that he guesses these were not fine, out of date. Including lamps have to be replaced by electric light, he offered. Due to today is globalizing world and they don’t not have to do like old people that can be damn.
    One other comment disadvantage of several temple. New monk offer to abbot have relation to other monk very more. Teach up and up and suggest business man should not work.
    such as washing by myself. But should to spread the power and assign to other people instead.
    That evening Buddhist day of 15th. Abbot to observe religious practice in the natural church middle of sand yard. He never forget to read the suggestion from new monk to several novice. But he don’t tell who is the writer.
    After he finished. He ‘s smile and put up the microphone and point to dusty dog that sleep under the chair near the asok tree to novice. “Do you see that d\usty dog?. It has leprosy and itch around body. I saw it run busily all day. It run to stay here and move other place can’t to long stay because it itch. But do you know? Where is the dog slept. It swear that place your mind. Each place not well and can’t make the itch to be disappear. Those place is very dirty.”
    When it think like that so it run to find the place that can make it feel better ,but it can’t. It’s run all the time the silly dog don’t know. The cause of itch not begin from the place ,but it’s from the illness in itself
    Said finish. Abbot put off microphone to show. This time for observe religious practice in the evening.
    While all the monk close the eyes and quiet. But In his mind of new moke to be impatient. He think. He don’t different the dusty dog just abbot compare. More concentration. It’s make he feel shy and pity himself.
    From that day the new monk educate from aboard have different from talkative man become little talk. From proud man become very polite man. From to find fault with people become fault with himself.
    Even though to be out of the Buddhist lent your mother told him to leave the Buddhist monk hood for back to continue business of family. He doesn’t wear out “He is dusty dog to beg for stay recovery until the illness disappear with abbot this here one rain.”
    When mother listened and prostrate next goodbye the son. And then leave from temple and think in her mind about the meaning of word “Dusty dog” from her son.

    Comment by ภานุรักษ์ สีสวย 51501030047-0 A.E. 2-1 | February 22, 2010 | Reply

  40. แมลงตัวหนึ่งอยู่บนแกนของราชรถ และกูพูดกับลาว่า ทำไมเจ้าถึงได้ช้าเยี่ยงนี้ ทำไมไม่ไปเร็วกว่านี้ ถ้าฉันคอยคุมด้วยเหล็กในของฉัน ลาตอบว่าฉันไม่ระวัง ฉันสนใจแค่ว่าคนที่นั่งอยู่เหนือคุณและก็ใครที่เร่งการก้าวของฉันโดยแซ่ หรือนำฉันกลัลด้วยการควบคุม ดังนั้น ในความทรนุงของคุณที่ฉันรู้ดีว่า เมื่อไหร่ฉันจะไปเร้วหรือช้า

    น.ส น้ำฝน นันทะวงศ์
    ภาอังกฤษสื่อสารสากล

    Comment by น.ส น้ำฝน นันทะวงศ์ | February 24, 2010 | Reply

  41. ครั้งหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งทำมาหาเลี้ยงชีพอยู่เป็นคนจนมากและมีลูกหลายคน ยากจนจนกระทั่งเขาไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของเขา เพราะเขาไม่สามารถทนกับความหิว เขาจึงทุบตีลูกเขาบ่อยๆ มีเพียงภรรยาของเขาที่คอยปกป้องลูก คืนหนึ่ง เขาเอนตัวลงหลับ มีเด็กที่น่ารักคนหนึ่งปรากฏต่อหน้าเขาในความฝัน เด็กคนนั้นบอกว่า ฉันเห็นว่าวิญญาณของคุณอยู่ในอันตราย แต่ฉันรู้ว่าคุณจน และฉันมาที่นี่เพื่อช่วยคุณ คุณจะพบกระจกเงา ผ้าเช็ดหน้าสีแดง และผ้าพันคอที่เย็บอย่างประณีต เก็บของทั้งสามสิ่งนี้ไว้แต่ห้ามให้ใครดูและมุ่งไปยังป่า ในป่านั้นคุณจะพบแม่น้ำสายเล็กๆ เดินตามแม่น้ำไปจนกระทั่งถึงต้นสายของมัน ที่นั่นคุณจะพบกับเด็กผู้หญิงที่สว่างเหมือนกับพระอาทิตย์ ผมยาวไปจนถึงไหล่ทำตามเธอแล้วคุณจะไม่เป็นอันตราย อย่าพูดอะไรกับเธอ ถ้าคุณพูดกับเธอแม้แต่คำเดียวเธอจะเสกคุณให้เป็นปลาหรือสัตว์ชนิดอื่นๆ และกินคุณ ถ้าเธอบอกให้คุณหวีผมของเธอ ตามใจเธอ เพราะคุณหวีมันคุณจะพบผมเส้นหนึ่งที่สีแดงเหมือนเลือดถึงมันออกมาและหนีไปกับมันอย่างรวดเร็ว เธอจะตามคุณมา จากนั้นวางทั้ง 3 สิ่งลงบนพื้นสิ่งแรกคือผ้าพันคอที่เย็บอย่างประณีต ตามด้วยผ้าเช็ดหน้าสีแดง และสุดท้ายกระจกเงา พวกมันจะทำให้เธอหยุดตามคุณ ขายเส้นผมให้ชายที่ร่ำรวย แต่คุณห้ามยกให้เพราะมันเป็นการโกง และจะมีเรื่องเลวร้ายที่ไม่สิ้นสุด ทำสิ่งเหล่านี้แล้วคุณจะรวยและจะทำให้คุณสามารถเลี้ยงดูลูกของคุณ
    เช้าวันถัดไป เมื่อเขาตื่น เขาเจอของที่เด็กบ้าคนนั้นพูดกับเขาในฝันจริงๆ เขาไปยังป่าอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขาพบกับแม่น้ำเขาเดินตามมันไป ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงต้นสายของมัน ที่นั่นเขาพบเด็กผู้หญิงกำลังนั่งบนตลิ่งกำลังร้อยลูกปัดท่ามกลางแสงที่ส่องจากดวงอาทิตย์ เธอถักเป็นตาข่ายไว้กับผม สยายออกตรงหน้าเธอ เขาตรงไปหาเธอและโค้งคำนับ เด็กผู้หญิงตื่นขึ้นและร้องว่า คุณมาจากไหน นักรบผู้แปลกหน้า ชายหนุ่มยังคงเงียบ เธอถามเขาอีกครั้ง คุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่? และคำถามอื่นๆอีกมากมาย แต่เขาก็ยังคงเงียบเหมือนหิน เพียงแต่แสดงออกทางมือของเขาเท่านั้นว่าเขาเป็นใบ้และต้องการช่วยเหลือ เธอบอกเขาให้นั่งตรงเท้าของเธอ และเมื่อเขานั่งลง เธอก้มหัวของเธอให้เค้าหวีผมของเธอ เขาเริ่มจัดเตรียมหวีผมให้ แต่ทันทีที่เขาพบเส้นผมสีแดง เขาดึงมันออกและมาถีบตัวออกมากระโดดขึ้นและวิ่งไปจากเธอด้วยความเร็วเท่าที่เขาจะทำได้ เธอกระโดดขึ้นหลังจากเขาและตามชายหนุ่มทันในไม่ช้า ชายหนุ่มหันไปในทางที่เขาวิ่งมาและพบว่าเด็กหญิงตามเขาทันแล้ว เขาวางผ้าพันคอลงบนพื้น เหมือนกับที่เด็กผู้ชายเคยพูด เมื่อเด็กผู้หญิงเห็นมัน เธอหยุดและเริ่มสำรวจมันจากนั้นเงยขึ้นมองทั้งสองข้างและชื่นชมการเย็บถักปักร้อย ช่วงเวลาสั้นๆนั้นชายหนุ่มได้โอกาสที่สำคัญในการหนีไปข้างหน้า เด็กผู้หญิงพันผ้าพันคอไว้ที่คอเธอและเริ่มติดตามชายคนนั้นต่อ เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าเธอจะตามทันอีกครั้ง เขาก็วางผ้าเช็ดหน้าสีแดงลงบนพื้น เมื่อเห็นมันเธอก็หยุดสำรวจและประหลาดใจกับมัน ในขณะเดียวกันชายชนบทก็สามารถเพิ่มระยะห่างระหว่างเขากับเธออีกครั้ง เมื่อเด็กหญิงสังเกตเห็นเธอโกรธมาก และขว้างของทั้งสองออกไปและเริ่มวิ่งตามเขาไป เธอเริ่มจะถึงจุดที่จะจับชายคนนั้นได้แล้ว เมื่อเขาขว้างกระจกเงาไปที่เท้าเธอ ที่ภาพของกระจกเงา สิ่งที่เหมือนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอดูตัวเธอเอง นำมันขึ้นมาและมองมัน ดูหน้าของเธอ เธอชอบที่มีหญิงคนอื่นมองเธอ ขณะที่เธอกำลังยุ่งกับการมองกระจกชายหนุ่มวิ่งไปไกลมากจนกระทั่งเธอพบว่าไม่มีทางตามเขาทัน เมื่อเธอเห็นว่าตามต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอจีงกลับไป ชายชนบทซึ่งเปี่ยมไปด้วยความสุขและไม่บาดเจ็บก็บรรลุถึงบ้าน อันดับแรกเขาโชว์เส้นผมให้ภรรยาและลูกของเขา และบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขา แต่ภรรยาของเขาเพียงหัวเราะเกี่ยวกับเรื่องนั้น ชายชนบทไม่สนใจกับการเยาะเย้ยของเธอ แต่ตรงไปยังเมืองข้าง ๆ เพื่อขายเส้นผม เขาถูกล้อมรอบด้วยผู้คนที่เบียดเสียดและพ่อค้าบางคนเริ่มเสนอราคาให้เขา คนหนึ่งเสนอให้เขา 1 เหรียญทอง บ้างสอง สำหรับเส้นผม 1 เส้น จนกระทั่งราคาพุ่งไปถึง 100 เหรียญทอง ระหว่างนั้นพระราชาได้ยินว่ามีเส้นผมมหัศจรรย์ซึ่งมีสีแดงจึงสั่งให้ชายชนบทเข้าเฝ้า และเสนอราคาให้เขาพันเหรียญทอง ชายหนุ่มมีความสุขมากและขายให้ในราคานั้น ยังไงก็ตามเส้นผมนี้มีความมหัศจรรย์ยังไง พระราชาแยกมันออกอย่างระมัดระวัง และในนั้นก็พบเรื่องราวความลับที่ประหลาดมากมายของธรรมชาติและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากโลกถูกสร้าง ด้วยเหตุนี้ชายชนบทกลายเป็นเศรษฐี และอยู่อย่างมีความสุขกับภรรยาและลูกๆของเขา เด็กผู้ชายที่เขาพบในความฝันคือเทวดาที่ส่งลงมาจากสวรรค์ช่วยเขาและเปิดความรู้ที่มหัศจรรย์มากมายให้กับผู้คนทั้งหลายซึ่งจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ยังคงยากที่จะบรรยาย

    (จากจูเนียร์คลาสสิก : หนังสือชุด 1, เรื่องราวมหัศจรรย์ เทพนิยาย, ถูกเลือกและจัดเตรียมโดย วิลเลียม แพตเท็น)

    Comment by น.ส น้ำฝน นันทะวงศ์ | February 24, 2010 | Reply

  42. เนื้อเพลง: ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
    Lyrics: once we have loved each other.

    เธออาจเหนื่อยกับสิ่งที่เรานั้นเป็นอยู่
    She may be tired of what we are located.

    ใครก็รู้ว่าเรานั้นคงไปกันไม่ไหว
    Who knew that we would go together as possible.

    เธอรู้ไหมว่าควรทำอย่างไร
    She should know that I do.

    ในหนทางที่เรายิ่งเดินยิ่งไกล
    In the way we walk even more remote.

    เธอคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด
    She is the best time.

    แต่ทุกๆ อย่างต้องหยุดไว้เพียงแค่นี้
    But everything must be stopped just this.

    ไม่มีอีกแล้วที่เราได้เคยมี
    No longer we had.

    ไม่มีช่วงเวลาที่แสนดี
    Not a very good time.

    ให้เธอนั้นได้จำว่า ครั้งหนึ่งเรานั้นเคยรักกัน
    She has to remember that. Once we were loving.

    เรานั้นเคยได้พบกัน แม้ว่ามันจะหมดไป
    We were to meet. Although it will run out.

    ในวันหนึ่งหากเธอบังเอิญได้พบใคร
    If one day she accidentally found one.

    ฉันก็คงไม่เสียใจ ปล่อยให้เธอไป
    I would not regret. Let her go.

    ฉันไม่เป็นไร ให้เธอได้จำเอาไว้ว่าเราเคยรักกัน
    I do not matter that she has taken note that we have loved each other.

    ไม่ว่ามันจะนานเท่าไรยังจดจำ
    No matter how long it will still remember.

    ทุกเรื่องราวระหว่างสองเราครั้งก่อนนั้น
    All stories between the two times before we are.

    ขอบคุณฟ้าที่เราได้เจอกัน
    Thank heavens we have met.

    จะเก็บมันไว้ข้างในส่วนลึกของหัวใจ
    To keep it deep inside the heart.

    ให้เธอนั้นได้จำว่า ครั้งหนึ่งเรานั้นเคยรักกัน
    She has to remember that. Once we were loving.

    เรานั้นเคยได้พบกัน แม้ว่ามันจะหมดไป
    We were to meet. Although it will run out.

    ในวันหนึ่งหากเธอบังเอิญได้พบใคร
    If one day she accidentally found one.

    ฉันก็คงไม่เสียใจ ปล่อยให้เธอไป
    I would not regret. Let her go.

    ฉันไม่เป็นไร
    I do not matter.

    She has to remember that. Once we were loving.
    ให้เธอนั้นได้จำว่า ครั้งหนึ่งเรานั้นเคยรักกัน

    เรานั้นเคยได้พบกัน แม้ว่ามันจะหมดไป
    We were to meet. Although it will run out.

    ในวันหนึ่งหากเธอบังเอิญได้พบใคร
    If one day she accidentally found one.

    ฉันก็คงไม่เสียใจ ปล่อยให้เธอไป
    I would not regret. Let her go.

    ฉันไม่เป็นไร และฉันจะจำเอาไว้ว่าเราเคยรักกัน
    I do not matter and I will take note that we have loved each other.

    Comment by น.ส.กานต์ธีรา ผลาผล E.I.C. 3-1 | February 24, 2010 | Reply

  43. A Swan King Trapped in a Loop

    Once upon a time, a flight of birds lived in a large cave of Jittakoort Mountain. The king of this flight named “Thatarat”. He had a good friend name “Sumook”. One day, a few swans from this flight flew to find food in a far away lotus pond. This pond was very large and beautiful. It had long been a food source for lots of birds. Those swans were very please to have found this food source. They came back and informed the swan king that they wanted to go back to that pond. But the swan king did not allowed by saying the pond was in human territory and was very dangerous. They should not go there. However, his followers were still begging. So the swan king allowed them and decided to go with them. That time, there were lots of swan went with them.

    As soon as they were gliding, the swan king was trapped and the loop was very tight. The swan king pulled his foot strongly meaning to tear the loop apart. However, the first time his skin was scratched, the second time his flesh was ripped off and the third time his tendon torn apart. When he did it for the forth time, the loop cut to the bone. A lot of blood came out and left him with severe pain.

    On the other hand, the swan king thought if he screamed for help that he was trapped, other swans would be scared and fly away without finishing with their food. Once they fly away, they wouldn’t have enough energy to reach home but would instead fall to the sea. Therefore, the swan king stood still waited for other swans to finish eating while he was suffering trapped in the loop.

    When time passed and all other swans finished eating, the swan king screamed loudly “I am trapped”. Once they heard, other swan flew away to their home in Jittakoort Mountain.

    Talking about Sumook, he was scared and flew away with the followers at first. But not long after, he was thinking may be the swan king were trapped. So he started to look for the swan king. Once he did not see the swan king, Sumook was sure the swan king was in danger so he flew back rapidly to the lotus pond. When he saw the swan king, he asked him not to be scared and he would sacrifice his life for the king.

    The swan king said “Other swan flew away. You should save your life as you can make no good here. I am being trapped here. What benefit could we make out of our friendship?”

    Sumook said “No matter I stay or go, I would die anyway as we could never escape from the death. Knowing you’re suffering, since I’m near, how could I leave you? I rather die beside you than living without you. And once you’re suffering like this, it’s not fair if I go away.”

    The swan king continue “The destiny of someone being trapped like me is nothing else but going to kitchen. You’re a smart person so what good do you see in dying together with me? You are sacrificing your life for something not valuable like a blind man doing his business in the dark. What success will he get from doing that?”

    Sumook replied “Why don’t you see the meaning of dharma? The dharma valued by men would benefit all beings. I have looked into the dharma and benefit it would give (not a materialized benefit). Therefore, I don’t regret losing my life. A friend, seeing the dharma in his heart, will not leave his friend to suffer, even if it means losing his life. This is the dharma of a man worthy of respect.”

    While the two birds were talking, the hunter arrived. He was wondering why one bird was trapping and the other was not but was standing there and didn’t fly away. So the hunter asked. Sumook answered the swan king was his master therefore he could not leave him.

    To ask for the swan king’s life, Sumook asked the hunter nicely for mercy and to let them go see their relatives and followers. The hunter admired the loyalty and sacrifice of Sumook. He would like to let both birds go. Nonetheless, the hunter would still like to test Sumook a bit more, so he said:

    “You’re not trapped and I don’t wish to kill you. You should hurry and fly away. I wish you to live happily ever after.”

    Sumook replied “I don’t wish to live without the swan king. If you wish for only one life, please go ahead release my king. For me, to release or to eat, I leave it up to you. Another thing, the swan king and I have the same size, if you’re to take my life, your luck wouldn’t be decreased. Please take me instead of my king. If you’re unsure of my word, please type me to the loop and release my king.”

    The hunter had even more softhearted and wished to release the swan king to reward Sumook. So he said:
    “The world should know that the swan king is safe from the death because of you. A friend like you is rare or none at all in this world. For this, I admired and felt for you. I respect your gratitude. Please go. Fly away and live happily among your relatives.” Once the swan king and Sumook knew the hunter hunted for his living, they would like to pay back to the hunter. They asked the hunter to take them to see the king. They told the king all the story.

    When the king knew the story, he admired both the birds and the hunter who have exercised dharma among themselves. So, the king granted a lot of property to the hunter. It was enough for the hunter to live through his life.

    To associate with good friends is a happy and prosper path of living both at present and in the future. According to the rule in Buddhism, good friends are friends who support, be in good and bad times, bring benefit and love. In a mean time, one should avoid 4 kinds of untrue friends including friends who like to fleece, to talk but don’t act, to convince to depreciations and a sycophant.

    These are the benefit from associating with wise men and philosophers. Being friends with good people, you have support when you suffer because they won’t leave you when you are in bad time and sometimes they are willing to sacrifice their lives for good friends. Good friends who are full of morals of friends are rare in this world. Anyone who found them should preserve them.

    Comment by น้ำฝน นันทะวงศ์ | February 25, 2010 | Reply

  44. ผู้หญิงนางหนึ่งเดินออกมาจากบ้านและเห็นชายชราไว้เคราขาว 3 คนนั่งอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน นางไม่รู้จักพวกเขา ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักคุณ แต่คุณคงหิว เขามาในบ้านและหาอะไรกินเถิด”
    “คุณผู้ชายของบ้านไม่อยู่หรอ?” พวกเขาถาม
    “ไม่” หล่อนพูด “เขาไปข้างนอกน่ะ”
    “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่เข้าไปไม่ได้หรอก” พวกเขาตอบ
    ในตอนเย็นเมื่อสามีของนางกลับมาบ้าน นางได้เล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
    “ไปบอกพวกเขาว่า ฉันมาแล้วและเชิญพวกเขาเข้ามาในบ้านเถอะ!”
    นางจึงเดินออกไปและเชิญชายเข้ามาในบ้าน
    “พวกเราไม่เข้าไปในบ้านพร้อมกันหรอก” พวกเขาตอบ
    “ทำไมล่ะ” หล่อนอยากรู้
    และชายชราคนหนึ่งจึงอธิบาย “เขาชื่อความมั่งคั่ง” เขาพูดพร้อมชี้ไปที่เพื่อนคนหนึ่ง
    และชี้อีกคน “เขาคือความสำเร็จและฉันคือความรัก”
    จากนั้นเขาก็เสริมว่า “ตอนนี้จงเข้าไปปรึกษาหารือกับสามีของเจ้าในบ้านและเลือกเราคนใดคนหนึ่งเข้าบ้านเถิด”
    ผู้หญิงจึงเข้าไปในบ้านและเล่าให้สามีฟัง สามีของนางดีใจมาก “ดีเยี่ยมเลย” เขาพูด “ไปเชิญความมั่งคั่งเข้ามาและเติมเต็มบ้านของเราด้วยความมั่งมีกันเถอะ”
    ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย “ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญความสำเร็จล่ะ?”
    ลูกละใภ้ของพวกเขาได้แอบฟังที่มุมหนึ่งของบ้าน หล่อนเดินเข้าไปแล้วเสนอว่า “เชิญความรักไม่ดีกว่าหรอ? บ้านของเราควรจะเต็มไปด้วยความรัก” “ข้าว่าทำตามที่นางบอกเถอะ” สามีพูดกับภรรยา “รีบไปเชิญความรักมาเป็นแขกของเรา” นางจึงออกไปและถามชายชรา 3 คนว่า
    “ใครคือความรัก? เชิญเข้ามาเป็นแขกของเรา”
    ความรักลุกขึ้นและเดินเข้าไปในบ้าน อีก 2 คนก็ลุกขึ้นและเดินตามเขาเข้าไป เธอแปลกใจมากจึงได้ถามถามความมั่งคั่งและความสำเร็จว่า
    “ฉันเชิญแค่ความรัก ทำไมพวกท่านถึงเข้ามา”
    ชายชราทั้งสองตอบพร้อมกันว่า
    “ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่งหรือความสำเร็จมา อีก 2 คนก็จะอยู่คอยข้างนอก แต่ถ้าคุณเชิญความรัก ที่ไหนก็ตามที่เขาไป พวกเราก็จะตามไปด้วย ที่ไหนมีความรักก็จะมีความมั่งคั่งและความสำเร็จ”

    Comment by น.ส.ปัทมา คำโส A.E. 2-2 | February 26, 2010 | Reply

  45. 4.หมูป่ากับลาโง่
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลาตัวหนึ่งได้พบหมูป่าบนเส้นทางเล็กๆ สายหนึ่ง
    ด้วยอารมณ์คึกคะนองมันจึงวิ่งเข้าไปต้อน หน้าตอนหลังหมูป่า
    พร้อมกล่าวทักทายแบบตีสนิท
    “เป็นไงเพื่อน สบายดีหรือเปล่า ไปเที่ยวไหนมาล่ะ เล่าให้ข้าฟังบ้างซิ”
    หมูป่ารู้สึกรำคาญจึงออกปากขับไล่
    “ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะ ข้าไม่มีเพื่อนที่ชอบทำอะไรวุ่นวายอย่างเจ้าหรอก”
    แทนที่จะสำนึก ลากลับวิ่งต้อนหน้าต้อนหลังหมูป่า เหมือนเช่นเดิม
    หมูป่าชักไม่พอใจขยับจะเข้าไปทำร้าย แต่นึกได้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะตอแยกับลา
    มันจึงเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ผู้ที่ทำอะไรไม่รู้กาลเทศะ ย่อมเป็นที่ขัดเคืองของผู้อื่น
    Wild pig and Stupid donkey
    Once apon a time, long time ago there was a donkey met wild pig on a small way with be vigorous so ran around the wild pig and said hello with friend reaction.
    “Hi, friend how are you doing? Can you tell me where did you go?”
    The pig felt annoyed so he chased him away.
    “Go away I don’t have annoying friend like you”
    Instead of awarness, he ran around the wild pig again and again
    The wild pig was upset and he was going to hurt him but
    He remined that there was no point to agree with him so he walked away fastly.

    Moral: A person who do something without thinking always being annoyed from other one

    น.ส. ปัทมา คำโส A.E. 2-2 51501030097-5

    Comment by น.ส.ปัทมา คำโส A.E. 2-2 | February 26, 2010 | Reply


Leave a reply to ภานุรักษ์ สีสวย 51501030047-0 A.E. 2-1 Cancel reply